วันนี้ (10 ส.ค.2565) เพจเฟซบุ๊ก R26E โพสต์ข้อความ Last service alert from us ระบุว่า สาย R26E มีความจำเป็นที่จะต้องเดินรถในวันที่ 14 ส.ค.นี้ เป็นวันสุดท้าย การเดินทางเชื่อมต่อเข้าเมืองอย่างไร้รอยต่อ จะไม่มีอีกต่อไป และความสะดวกสบายในการเดินทางเข้าเมืองไปทำงาน หรือไปเรียนบนถนนสุขุมวิทสายเก่า จะเป็นเรื่องที่ยาก และไม่คุ้นเคย
เราขอโทษผู้โดยสารกว่า 6,000 คนต่อวัน ที่ไม่สามารถให้บริการต่อไปได้ และขอบคุณจากใจที่วางใจใช้บริการเรา ในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ในระหว่างนี้ยังให้บริการตามปกติ โดยคันสุดท้ายเที่ยวไป จะจอดรอเวลาที่โฮมโปรบางพลี 21.10 น. จากอนุสาวรีย์ชัยฯ 22.20 น. ถึงแม้ว่าเรากำลังจะหยุดให้บริการ แต่ขอให้มั่นใจในการการันตีเวลาเดินรถของเรา ไปจนถึงวันสุดท้ายที่เราให้บริการ
ภาพ: เฟซบุ๊ก R26E
ในขณะเดียวกัน กรมการขนส่งทางบกกลาง กำลังดำเนินการเรื่องการประกาศหาผู้มาเดินรถใหม่ และกำลังจัดหารถที่จะมาทดแทนในเส้นทาง หากผู้โดยสารมีข้อสงสัยในการเดินรถทดแทน สอบถามเพิ่มเติมโทร. 1584 ขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทาง และศึกษาเส้นทางในการเดินทางด้วยสายทดแทนอื่น จะเป็นการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจากกัน
ภาพ:เฟซบุ๊ก R26E
4 ปียอมรับขาดทุนต่อเนื่อง-ใจหาย
ไทยพีบีเอสออนไลน์ สัมภาษณ์ตัวแทนบริษัท มารัตน์ ทรานสปอร์ต จำกัด เดินรถโดยสารปรับอากาศ สาย R26E บอกว่า หลังจากเปิดให้บริการเดินรถมาตั้งแต่ปี 2561 ก็เริ่มขาดทุนสะสมมาเรื่อยๆ รายได้ไม่คงที่ แม้ว่าจะมีผู้โดยสารในปี 2565 ถึง 6,000 คนต่อวัน
ทั้งนี้ค่าขาดทุนสะสมส่วนใหญ่หลักๆ เป็นค่าใช้จ่ายเรื่องเชื้อเพลิง และค่าซ่อมบำรุงรถช่วงล่าง เพราะด้วยสภาพถนน และน้ำกร่อยต้อเงจอ ถนนเคหะบางพลี-รพ.จักรีฯ เนื่องจากเป็นรถที่วิ่งเส้นทางถึง 61 กิโลเมตร และเก็บราคาค่าโดยสารเริ่มต้นตั้งแต่ 15 ,19, 23 ,25 และ 27 บาท
แหล่งข่าว ระบุว่า ก่อนช่วงโควิด-19 เคยมีรายได้ 8,000 บาทต่อวัน ก็เหลือ 2,000 บาท วิ่ง 3 รอบ และค่าเชื้อเพลิงประมาณ 3,500 บาทต่อวัน เรียกว่าติดลบมาโดยตลอด ซึ่งในช่วงหลายเดือนหลังจากโรงเรียนเปิด การทำงานกลับมาก็ทำให้ผู้โดยสารกลับมาถึง 6,000 คนต่อวัน
ภาพ:เฟซบุ๊ก R26E
รถเที่ยวแรก 03.40 น.เที่ยวสุดท้าย 22.20 น.
แหล่งข่าว ระบุว่า ตอนนี้มีลูกค้าประจำที่จะมารอนั่งรถไปทำงานในเมือง ตั้งแต่รถเที่ยวแรก เวลา 03.40 น.เที่ยวแรก และเที่ยวสุดท้ายจากอนุสาวรีย์ชัยฯ เวลา 22.20 น. ทุกวัน
ใจหายเหมือนกันที่ต้องหยุดวิ่งวันที่ 14 ส.ค.นี้ ส่วนพนักงานใช้วิธีการเลิกจ้าง 40 คนมีพขร.และพนักงานเก็บเงิน มีค่าชดเชยตามกฎหมาย บื้องต้นหลังจากหยุดวิ่งแล้ว วันที่ 15 ส.ค.นี้ จะเอารถไปเก็บ และเคลียร์อู่
ทั้งนี้ หลังจากมีการโพสต์เฟซบุ๊ก มีผู้ใช้บริการเข้ามาแสดงความเห็นหลากหลาย บางคนบอกว่ารถเข้าถึงทุกพื้นที่ผ่านโรงพยาบาล โรงเรียน มหาวิทยาลัย เขตโรงงานนิคม ห้างสรรพสินค้า สถานที่สำคัญ และแหล่งชุมชน รู้สึกเสียดาย ผู้โดยสารในพื้นที่ที่รถผ่าน จะลำบากต่อการเดินทางมากๆ
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา รถเมล์ร้อนสาย 8 เส้นทาง แฮปปี้แลนด์-สะพานพุทธ ได้ยุติกิจการหลังจากไม่ผ่านแผนการปฏิรูปรถโดยสารของ ขสมก.ซึ่งรถเมล์สาย 8 ไม่ผ่านคุณสมบัติ ในเส้นทางสัมปทานเดินรถ จำนวน 77 เส้นทาง ทำให้ไม่สามารถทำกิจการต่อไปได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปิดตำนาน! รถเมล์สาย 8 ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานประมูล