วันนี้ (13 ส.ค.2565) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เรียกร้องให้กรมทางหลวงเปิดเผยกล้องวงจรปิดก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ กรณีอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งเสียหลักชนแบริเออร์เกาะกลางถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา และพบว่ามีศพติดอยู่ในซากรถนานกว่า 12 ชั่วโมง หลังจากลูกสาวผู้เสียชีวิตสงสัยว่าเหตุใดตำรวจจึงไม่ให้บันทึกภาพวงจรปิด และไม่ให้ดูขณะเจ้าหน้าที่ช่วยเหลืออย่างละเอีอด อีกทั้งวงจรปิดเห็นว่าผู้เสียชีวิตขับรถเปลี่ยนช่องทางจราจรก่อนถึงจุดเกิดเหตุ และบริเวณที่เกิดเหตุก็มีแนวเขตการก่อสร้าง
นายรณณรงค์ ได้กล่าวถึงกรณีการแถลงข่าวของตำรวจทางหลวง และกรมทางหลวง รวมถึงตัวแทนจากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ว่ามีความเคลือบแคลงสงสัยหลายอย่าง โดยเฉพาะการให้สัมภาษณ์ของแพทย์ที่ระบุถึงผลการชันสูตรว่าเป็นอาการรุนแรง ส่งผลให้สามารถเสียชีวิตโดยทันที ซึ่งมองว่าไม่ควรพูดออกมาเช่นนั้น
นอกจากนี้ นายรณณรงค์ยังกล่าวถึงการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางหลวง ที่แถลงข้อเท็จจริงดูย้อนแย้งกับคำแถลงของพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ที่ระบุถึงรายละเอียดการเข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ที่ไม่มีการตรวจสอบอย่างละเอียดและอ้างว่ากลัวทรัพย์สินสูญหาย ซึ่งมองว่าไม่ได้ เพราะตำรวจมีอำนาจตรวจสอบ รวมถึงการเคลื่อนย้ายรถโดยที่ไม่มีคำสั่งจากร้อยเวรในที่เกิดเหตุ กู้ภัยไม่สามารถดำเนินการได้ โดยยืนยันจะเดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตให้ถึงที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กังขา! ลากรถประสบอุบัติเหตุบนมอเตอร์เวย์ทิ้งศพไว้ 12 ชม.
ผบก.ทางหลวงยอมรับ จนท.ตรวจไม่ละเอียด เก๋งชนตายคารถ 12 ชั่วโมง
“กรมทางหลวง”ระบุสอบเบื้องต้นตำรวจ-กู้ภัย ไม่พบคนเจ็บในรถที่ชนบนมอเตอร์เวย์