ภารกิจนี้เกิดขึ้นจากเพจ Girls in Tech Thailand ที่ประกาศรับสมัครตัวแทนนักเรียนหญิงจำนวน 50 คน เข้าร่วมโครงการ "Girls In Tech 1st DETECTHON" หรือชื่อภาษาไทยว่า ภารกิจ : เขาวานให้หนูเป็นสายลับ เพื่อเข้ารับการอบรมและร่วมการแข่งขันค้นหานักสืบรุ่นใหม่โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย กับ 3 ประเด็นสังคม
- การแสวงหาประโชยน์ทางเพศจากเด็กในโลกออนไลน์ (Online Child Sexual Exploitation and Abuse, OCSEA)
- การเผยแพร่ข่าวลวง (Disinformation Campaign)
- การฉ้อโกงออนไลน์ (Online Scams, Fraud)
ไทยพีบีเอสออนไลน์ไม่รอช้าชวนทุกคนมาเจาะข้อมูล ไขหลักสูตรนักสืบรุ่นใหม่กับ ร.ต.อ.ณกรณ์ พรหมมะ หนึ่งในทีมงานและผู้ออกแบบกิจกรรม Girls In Tech 1st DETECTHON ในครั้งนี้
ร.ต.อ.ณกรณ์ ระบุว่า สสส., สถาบันนิติวัชร์, Cofact และเครือข่าย ต่างมีความกังวลเกี่ยวกับอาชญากรรมที่เกิดขึ้นทางออนไลน์กับผู้หญิง โดยเฉพาะเยาวชนที่ถูกหลอกลวงจนนำไปสู่ความสูญเสีย จึงได้มีการหารือเพื่อสร้างเกราะคุ้มกันให้น้อง ๆ พร้อมทั้งสร้างอาวุธให้ปกป้องตัวเองและต่อสู้เพื่อคนอื่นด้วย
ขณะที่เด็กผู้หญิงบางคนถูกหลอกให้เผยแพร่ภาพเปลือยของตัวเองบนสื่อสังคมออนไลน์ อาจไม่ทราบว่าผลที่ตามมามีมากมายขนาดไหน หรือแม้แต่การฉ้อโกงทางออนไลน์ก็พบผู้เสียหายเป็นเด็กผู้หญิงจำนวนมาก ภัยคุกคามเหล่านี้อยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่คิด หลักสูตรนี้จึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อหยุดยั้งเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
สำหรับกิจกรรมที่จะจัดขึ้นวันที่ 27-28 ส.ค.นี้ ร.ต.อ.ณกรณ์ ร่วมกับทีมงานออกแบบกิจกรรมอัดแน่นไปด้วยกลยุทธ์จากยอดฝีมือในแต่ละสาขา เริ่มกิจกรรมแรกกับการรับฟังคดีจริงจากผู้เสียหายตั้งแต่วิธีการที่มิจฉาชีพเข้าหา ความรู้สึกหลังจากเกิดอาชญากรรม การตัดสินใจดำเนินคดี ไปจนถึงช่วงเวลาที่ฟื้นฟูจิตใจกลับมาได้
ต่อกันด้วยกิจกรรมที่ได้ตัวแทนตำรวจ สายสืบตัวจริงมาให้ความรู้ ตั้งแต่ข้อมูลพื้นฐานเรื่องเครื่องมือในการเก็บข้อมูล หลักฐาน ไปจนถึงขั้นตอนและวิธีการที่นำไปสู่การสืบค้นข้อมูล และดำเนินคดีตามกฎหมาย
สุดท้ายคือเทคนิคการเล่าเรื่อง ที่ตัวแทนนักเล่าเรื่องจากบริษัทชั้นนำจะมาแนะวิธีการเรียบเรียงข้อมูล การจัดทำไทม์ไลน์ คัดเลือกข้อมูลสำคัญ เพื่อนำเสนอคดีต่อสาธารณชนแบบที่ตำรวจทำกันมาให้ได้เห็นในคดีใหญ่ ๆ
เรียกว่าเราเอาสายสืบตัวจริง และคนทำงานจริง มาเป็นโค้ช มาบอก มาแนะนำประสบการณ์ เพื่อเป็นไกด์ไลน์ให้น้อง ๆ ได้เรียนรู้และเข้าใจ มันจะดีมากกว่าการให้ตัวแทนมายืนพูดให้ฟังเฉย ๆ
ทั้งนี้ หลังจากเปิดรับสมัครไปเพียง 1 วัน มีผู้สนใจสมัครเข้ามาถึง 120 คน แต่ทางผู้จัดรับได้เพียง 50 คนเท่านั้น จึงต้องปิดรับสมัครแล้ว และหวังว่านักเรียนทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมทั้ง 2 วันจะได้นำความรู้และเทคนิคต่าง ๆ ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน และเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายเพื่อหยุดยั้งอาชญากรรมทางเทคโนโลยีต่อไปด้วย