ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ย้าย "ครูโรงเรียนย่านทุ่งครุ" เตะ-ตบหัวเด็ก ปมเล่นบอลในห้อง

สังคม
24 ส.ค. 65
10:15
2,513
Logo Thai PBS
ย้าย "ครูโรงเรียนย่านทุ่งครุ" เตะ-ตบหัวเด็ก ปมเล่นบอลในห้อง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สพม.กท.1 สั่งย้าย "ครูโรงเรียนย่านทุ่งครุ" หลังเตะและตบศีรษะเด็ก เหตุเตะฟุตบอลในห้อง ไปทำงานที่สำนักงานเขตพื้นที่ฯ เป็นการชั่วคราว ขณะที่ รมว.ศธ.กำชับ สพฐ.ดำเนินการทางวินัยกรณีครูลงโทษเด็กรุนแรง

วันนี้ (24 ส.ค.2565) น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีคลิปครูผู้ชายโรงเรียนอิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) กรุงเทพมหานคร เขต 1 ลงโทษนักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังเล่นฟุตบอลในห้องเรียน ด้วยการให้นักเรียนนั่งคุกเข่าพร้อมลูกบอล ใช้เท้าเตะไปที่ฟุตบอลที่นักเรียนถืออยู่ ใช้มือตบศีรษะนักเรียน และใช้ถ้อยคำรุนแรง

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ตนได้รับรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ขณะนี้ทางโรงเรียนได้ตั้งคณะกรรมการสอบทางวินัย และปลดครูคนดังกล่าวออกจากการเป็นหัวหน้ากลุ่มสาระแล้ว ขณะเดียวกันก็ได้พานักเรียนไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล โดยโรงเรียนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด พร้อมพูดคุยกับผู้ปกครองนักเรียนและมอบเงินช่วยเหลือ จำนวน 2,000 บาท

นอกจากนี้ ทาง สพม.กท.1 ได้ย้ายครูไปทำงานที่สำนักงานเขตพื้นที่ฯ เป็นการชั่วคราว ซึ่งได้กำชับทาง สพฐ.ว่า เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นอีก และความรุนแรงในสถานศึกษาก็ไม่ควรมีแล้ว

ได้เน้นย้ำมาโดยตลอดว่า การดูแลความปลอดภัยทั้งร่างกายและจิตใจของนักเรียนเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อเกิดเหตุใด ๆ ขึ้น ระบบและวิธีการที่ ศธ.วางไว้ต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว ต้องช่วยเหลือนักเรียนทันที เพื่อให้โรงเรียนเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับนักเรียน
การลงโทษนักเรียน หากทำเกินกว่าเหตุโดยไม่ปฏิบัติตามระเบียบของ ศธ. นอกจากจะมีความผิดทางวินัยราชการแล้ว อาจยังผิดจรรยาบรรณวิชาชีพครู และอาจจะเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญาในข้อหาทำร้ายร่างกายและจิตใจผู้อื่น

ทั้งนี้ ตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษนักเรียนของ ศธ. ได้ห้ามลงโทษนักเรียนและนักศึกษาด้วยวิธีรุนแรง หรือแบบกลั่นแกล้ง หรือลงโทษด้วยความโกรธ หรือด้วยความพยาบาท และให้เป็นไปเพื่อเจตนาที่จะแก้นิสัยและความประพฤติไม่ดีของนักเรียน หรือนักศึกษาให้รู้สำนึกในความผิดและกลับประพฤติตนในทางที่ดีต่อไป

รมว.ศึกษาธิการ ฝากให้ครูเลือกใช้วิธีในการปรับพฤติกรรมนักเรียนที่เหมาะสม เชื่อว่าเด็กรุ่นใหม่พูดคุยด้วยเหตุผลได้ หากยังพบครูที่ประพฤติตนไม่เหมาะสม ไม่ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ หน่วยงานต้นสังกัดก็ต้องดำเนินการทางวินัยกับครูคนนั้นอย่างจริงจัง สิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นบทเรียนสำคัญให้หน่วยงานทางการศึกษาทุกระดับเร่งรัด หรือวางมาตรการป้องกันไม่ให้เหตุ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง