วันนี้ (31 ส.ค.2565) พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย นำองค์กรสิทธิมนุษยชนปาตานี เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากกฎหมายพิเศษ รวมถึงครอบครัวผู้ถูกซ้อมทรมานและบังคับให้สูญหาย แถลงข่าวแสดงความยินดีที่สภาฯ ผ่านร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและกระทำให้บุคคลสูญหาย
พญ.เพชรดาว กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (30 ส.ค.) เป็นวันผู้สูญหายสากล หลายครอบครัวยังรอการกลับมา ไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ตาม โดยยืนยันว่า กมธ.วิสามัญร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ที่ผลักดันผ่านสภาฯ ในรุ่นนี้ผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบ แม้ว่าเมื่อผ่าน ส.ว.แล้วจะไม่ถูกใจทั้งหมดอย่างที่คาดหวัง ก็ดีกว่าไม่มีกฎหมายรองรับ
พญ.เพชรดาว ยังกล่าวทั้งน้ำตาถึงอับดุลกาเดร์ หรือหะยีสุหลง โต๊ะมีนา คุณปู่ที่ถูกบังคับให้สูญหายไปเมื่อ 68 ปีที่แล้ว ด้วยการฆาตกรรมและทิ้งทะเล นับเป็นกลุ่มอุ้มฆ่าแรก ๆ ในประเทศไทย ซึ่งไม่กี่วันมานี้ ตนเองได้รับคำขอโทษเป็นครั้งที่ 2 จากคนในตระกูลชุณหะวัณ ที่มีอำนาจในขณะนั้น โดยได้กล่าว่าขอโทษในนามครอบครัวของผู้กระทำ ซึ่งคำขอโทษคำเดียวที่ส่งต่อจากรุ่นนั้นมีคุณค่าทางจิตใจ และมีความหมายต่อผู้ถูกกระทำ ดังนั้นการให้อภัยเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ พร้อมย้ำว่ากฎหมายนี้เป็นของทุกคนและทุกพรรรการเมือง ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง และเมื่อความจริงปรากฏความเท็จย่อมมลายหายสิ้น
กฎหมายนี้ไม่ใช่คำภีร์พิเศษ ที่จะหยุดยั้งการกระทำ ดังนั้นเราต้องร่วมกันติดตามการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐ และไม่ลืมดูแลเยียวกับครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ
ขณะที่นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ร่างกฎหมายนี้อยู่ระหว่างที่สภาฯ ส่งไปให้รัฐบาล เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ใน 20 วัน ตามกรอบกฎหมาย โดยสาระสำคัญของกฎหมายจะเปลี่ยนแปลงกระบวนการสืบสวนสอบสวน ซึ่งสามารถให้ฝ่ายปกครองและอัยการร่วมสืบสวนสอบสวนได้ และผู้บังคับบัญชาต้องมีส่วนรับผิดชอบ รวมถึงการบันทึกภาพขณะควบคุมตัวและจับกุม เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้ประชาชน พร้อมย้ำการบันทึกภาพเป็นการปกป้องเจ้าหน้าที่ผู้ที่ปฏิบัติงานโดยสุจริต มีหลักฐานคุ้มครองหากถูกร้องเรียน
ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสียและได้รับผลกระทบจากการใช้อำนาจรัฐทุกรูปแบบ พร้อมย้ำว่าความจำปวดนี้ ถือเป็นส่วนผลักดันให้เกิดกฎหมาย แม้อาจยังไม่สมบูรณ์ทั้งหมด แต่ถือเป็นชัยชนะของภาคประชาชน และเป็นกฎหมายที่มีฉันทามติรวมกันของทั้ง ส.ส.ฝ่ายค้านและรัฐบาล ซึ่งอาจมีบางช่วงบางตอนที่ดีกว่านี้ได้ ถ้าหากมีโอกาสเข้ามาสภาฯ อีก ก็จะเข้ามาแก้ไข
เสียงจากผู้ได้รับผลกระทบ "ซ้อมทรมาน"
ขณะที่นายสมศักดิ์ ชื่นจิต ซึ่งลูกชายถูกเจ้าหน้าที่รัฐซ้อมทรมาน และต่อสู้มากว่า 13 ปี ระบุถึงความยากลำบากที่ผู้ไม่ตกเป็นเหยื่อจะไม่รู้ว่าทุกทรมานเพียงใด ซึ่งตนเองไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการอันพึงมี โดยขอบคุณสภาฯ ที่ผ่านร่างกฎหมายนี้ แม้จะไม่เต็มร้อยก็ดีกว่าไม่มี เชื่อว่ากฎหมายนี้จะทำให้ประชาชนมีหลักประกันความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่รัฐที่ลุแก่อำนาจ กระทำให้เกิดแพะ และเชื่อว่าแพะไม่มีทางหมด แต่จะน้อยลงไปหากกฎหมายนี้บังคับใช้