วันนี้ (1 ก.ย.2565) สำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) อนุมัติวัคซีนโควิด-19 รุ่นปรับปรุงใหม่ ที่ออกแบบมาให้รองรับการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ย่อยโอมิครอน BA.4 และ BA.5 โดยให้ไฟเขียววัคซีน 2 ตัว ได้แก่ ไฟเซอร์-บีออนเทค และโมเดอร์นา คาดว่า จะเดินหน้าเริ่มการฉีดวัคซีนได้โดยเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า
วัคซีนเข็มกระตุ้นรุ่นใหม่ของไฟเซอร์ ใช้ในคนที่อายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป ส่วนของโมเดอร์นาใช้ได้ในอายุ 18 ปีขึ้นไป ของไฟเซอร์ระบุไว้ว่ามีโดสละ 30-microgram ส่วนโมเดอร์นา 50-microgram
ใครจะรับวัคซีนรุ่นใหม่ FDA กำหนดให้ต้องฉีดวัคซีนมาแล้วอย่างน้อย 2 เข็ม และฉีดเข็มล่าสุดมาแล้วอย่างน้อย 2 เดือน ไม่ว่าจะเข็มไหน ซึ่งวัคซีนรุ่นใหม่จะถูกนำมาใช้แทนที่วัคซีนเข็มกระตุ้นรุ่นเดิม
ผู้เชี่ยวชาญ อธิบายว่า วัคซีนรุ่นใหม่มีส่วนประกอบพื้นฐานเหมือนกับวัคซีน mRNA รุ่นดั้งเดิม แต่ดัดแปลงให้พุ่งเป้าจัดการกับเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ย่อยโอมิครอน BA.4 และ BA.5 ได้ และยังจัดการสายพันธุ์เดิม ๆ ได้ด้วย
สิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง คือ วัคซีนรุ่นใหม่นี้พัฒนาขึ้นรวดเร็วมาก ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้เทคโนโลยี mRNA ย้อนไป 2 เดือนก่อน FDA เพิ่งจะแนะบริษัทยาไปว่าควรจะปรับสูตรวัคซีนอย่างไร และอีกไม่กี่วันนี้วัคซีนเป็นล้าน ๆ โดสจะกระจายไปสู่แต่ละรัฐได้แล้ว
แต่ก็มีข้อกังวลเกี่ยวกับการทดสอบวัคซีนเช่นกัน เพราะการทดสอบในมนุษย์อย่างเต็มรูปแบบเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น ทั้งที่เตรียมใช้งานวัคซีนแล้ว ซึ่งทางการสหรัฐฯ ชี้แจงว่า เพราะเชื้อโควิด-19 พัฒนาไปเร็วมาก การรอผลทดสอบในมนุษย์ก็แทบจะเปล่าประโยชน์เพราะว่าจะทดสอบเสร็จ เชื้อก็เปลี่ยนไปแล้ว
ดังนั้นก่อนอนุมัติ วัคซีนนี้จึงใช้ข้อมูลการทดสอบในมนุษย์ จากการทดสอบที่มุ่งเป้าจัดการไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ที่ระบาดก่อนหน้านี้ กับการทดสอบในหนูทดลอง
นอกจากการสร้างภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นแล้ว FDA ยังหวังว่าวัคซีนรุ่นใหม่จะช่วยป้องกันประชาชนจากโรคได้เป็นระยะเวลานานขึ้น โดยรัฐบาลสหรัฐฯ สั่งซึ้อวัคซีนรุ่นใหม่แล้ว 170 ล้านโดส พร้อมแสดงความมั่นใจว่าไม่ขาดแคลนแน่นอน
การเดินหน้าผลักดันวัคซีนของสหรัฐฯ ถือเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าถึงช่วงฤดูหนาวปลายปีนี้ หลังจากโควิด-19 กลายเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 3 ในสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ เคยประสบปัญหาเรื่องความตื่นตัวในการรับวัคซีนโควิด-19 ของประชาชนจำนวนไม่น้อย ที่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการไปฉีดเข็มกระตุ้น ระลอกนี้ทางการสหรัฐฯ วางแผนไว้อย่างไรบ้าง
ปัญหานี้เป็นสิ่งที่ทางการคาดไว้แล้ว เพราะคนจำนวนมากเริ่มชินชา เหนื่อยหน่ายกับโรคระบาด รัฐบาลจึงวางวัคซีนรุ่นใหม่นี้เป็นสิ่งที่ชาวอเมริกันควรจะต้องไปฉีดกระตุ้นภูมิ คล้ายกับที่ทุก ๆ ปีจะต้องไปฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เข็มใหม่ เตรียมรับมือเชื้อสายพันธุ์ใหม่ ๆ
แต่จริง ๆ แล้วแม้แต่รัฐบาลเองก็ค่อนข้างนิ่งเฉยกับเรื่องโควิด-19 ทำเนียบขาวออกจะเงียบๆ ไม่ได้พูดเรื่องนี้มากเท่าแต่ก่อน แม้กระทั่งช่วงที่ โจ ไบเดิน ผู้นำสหรัฐฯ ติดเชื้อก็ตาม สะท้อนว่าพวกเขาตระหนักว่าประชาชนเหนื่อยหน่ายเช่นกัน
แม้จะไม่ได้มีรายงานข่าวเกี่ยวกับโควิด-19 มากนัก แต่ทุกวันนี้สหรัฐฯ ยังมีผู้ติดเชื้อวันละร่วม 90,000 คน และเสียชีวิตจากโรคนี้เฉลี่ยวันละ 475 คน แม้จะเผชิญการระบาดมาร่วม 3 ปี แล้ว
ข้อมูลที่น่าสนใจนี้นำมาสู่ประเด็นถัดไปที่เชื่อมโยงกัน คือ อายุคาดเฉลี่ยของประชากรในสหรัฐฯ ลดลงต่ำสุดในรอบ 26 ปี ปัจจัยสำคัญหนีไม่พ้นโควิด-19 ตามข้อมูลของ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) ซึ่งชี้ว่า อายุคาดเฉลี่ยชาวอเมริกัน ลดลง 2.7 ปี ระหว่างปี 2019-2021
สถิติชี้ว่า โควิด-19 มีส่วนสำคัญในการลดลงของอายุคาดเฉลี่ยถึง 50% ระหว่างปี 2020-2021 แต่ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงปีแรกของการระบาด 2019-2020 โควิด-19 เป็นปัจจัยถึง 74%
ส่วนปัจจัยอื่น ๆ ใช้คำว่า การบาดเจ็บโดยไม่เจตนา ครอบคลุมถึงการใช้ยาเกินขนาด เป็นปัจจัยที่เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงปี 2021 และถูกนำมาคำนวณในการลดอายุคาดเฉลี่ยมีส่วนถึง 15.9%
โรคภัยต่าง ๆ มีไม่น้อยเช่นกัน ทั้งการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ โรคตับเรื้อรัง ตับแข็ง รวมถึงการฆ่าตัวตายด้วย
อายุคาดเฉลี่ยประชากรสหรัฐฯ ลดต่ำสุดรอบ 26 ปี
ข้อมูลจากรัฐบาล ชี้ว่า อายุคาดเฉลี่ยเมื่อแรกเกิด อยู่ที่ 76.1 ปี ลดลงจากเมื่อปี 2019 ที่เด็กแรกคลอดยังมีอายุคาดเฉลี่ย 79 ปี ถือว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เป็นระยะเวลา 2 ปี ที่อายุคาดเฉลี่ยลดดิ่งลงเร็วที่สุดในรอบศตวรรษ
ส่วนกลุ่มชนพื้นเมืองอเมริกันและชนพื้นเมืองอะแลสกา เป็นกลุ่มที่อายุคาดเฉลี่ยลดลงชัดเจนที่สุด โดยลดลงถึง 2 ปี และถ้าดูย้อนไปถึงปี 2019 กลุ่มชาติพันธุ์เหล่านี้อายุคาดเฉลี่ยลดลงถึง 6.6 ปี มากกว่าประชากรอเมริกันอื่น ๆ เกิน 2 เท่า
นอกจากนี้ อายุคาดเฉลี่ยที่ลดลงระหว่างชายหญิงก็ต่างกัน ผู้ชายอายุคาดเฉลี่ยลดลงประมาณ 1 ปี เหลือ 73.2 ปี เมื่อปีที่แล้ว ส่วนผู้หญิงอายุคาดเฉลี่ยลดลงราว 10 เดือน เหลือ 79.1 ปี ขณะที่ พื้นที่อาจมีผลด้วย เช่น ข้อมูลปี 2020 ชี้ว่า อายุคาดเฉลี่ยของคนในฮาวายมากที่สุด 80.7 ปี เทียบกับมิสซิสซิปปี ต่ำสุด 71.9 ปี แต่หากเทียบประเทศอื่น หรือประเทศพัฒนาแล้วด้วยกัน สหรัฐฯ มีอายุคาดเฉลี่ยต่ำสุดชาติหนึ่ง
ข้อมูลล่าสุดจากธนาคารโลก ระบุว่า ฮ่องกง ญี่ปุ่น ประชากรมีอายุคาดเฉลี่ยสูงสุด 85 ปี รองลงมาเป็นสิงคโปร์ 84 ปี หรือประเทศอย่างสวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย นอร์เวย์ อายุคาดเฉลี่ยประชากรอยู่ที่ราว 83 ปี