วันนี้ (3 ก.ย.2565) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ขณะนี้สมาพันธ์สุนัขโลก (FCI) จดทะเบียน สุนัขไทยบางแก้ว (Thai Bangkaew) เป็นสุนัขโลกแล้ว ต่อจากสุนัขไทยหลังอาน ที่เคยได้รับการบรรจุการขึ้นทะเบียนเป็นสุนัขสายพันธุ์ใหม่ของโลกเมื่อปี 2546
ทั้งนี้การขึ้นทะเบียนสุนัขไทยบางแก้ว โดยจัดอยู่ในกรุ๊ป 5 จาก 10 กรุ๊ป ซึ่งกรุ๊ป 5 แบ่งตามลักษณะของสุนัข และแหล่งกำเนิดของสุนัข คือ Spitz เป็นสุนัขที่มีขนยาว หนา และมักเป็นสีขาว หูตั้ง ปลายหูแหลม หางมักจะโค้งอยู่เหนือหลัง รูปหน้าสุนัขจิ้งจอกหรือคล้ายกับหมาป่า และ Primitive type เป็นสุนัขสายพันธุ์ดั้งเดิมหรือสุนัขโบราณ
สุนัขบางแก้ว ถูกตั้งชื่อตามถิ่นกำเนิด คือ วัดบางแก้ว ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำยม สุนัขไทยพันธุ์นี้มีลักษณะคล้ายสุนัขจิ้งจอกหรือเป็นสุนัขลูกผสมของสุนัขจิ้งจอกคนไทยนิยมเลี้ยงไว้เฝ้าบ้านเนื่องจากสุนัขบางแก้วขึ้นชื่อเรื่องความดุ
ชี้ช่วยรับรองสายพันธุ์มาตรฐาน
ปัจจุบันสุนัขจากประเทศไทยได้รับการรับรองจาก FCI แล้ว 2 สายพันธุ์ คือ ไทยหลังอาน อยู่ในกรุ๊ป 5 ประเภท Primitive type และล่าสุดไทยบางแก้ว อยู่ในกรุ๊ป 5 ประเภท Spitz
สำหรับความสำคัญของการที่ FCI จดทะเบียนสุนัขไทยบางแก้ว เป็นสุนัขโลกนั้น เป็นการรับรองมาตรฐานสายพันธุ์สุนัข เพื่อให้ประเทศสมาชิกใช้ถือปฏิบัติเป็นตามมาตรฐานเดียวกัน เช่น การรับรองมาตรฐานสายพันธุ์สุนัข การรับรองการประกวดของประเทศสมาชิก การรับรองกรรมการผู้ตัดสินของประเทศสมาชิก
ทำให้ผู้ส่งประกวดจะได้รับใบรับรองพันธุ์ประวัติ (Certificate Pedigree) แสดงถึงคุณภาพของลูกสุนัขที่ได้รับการถ่ายทอดพันธุกรรม ลักษณะเด่น ด้อย ทั้งในเชิงกายภาพรูปร่าง หน้าตา ไปจนถึงลักษณะนิสัย ทั้งนี้ ปัจจุบันสมาพันธ์สุนัขโลก (FCI) มีสมาชิกทั้งหมด 98 ประเทศ มีสุนัขที่ได้รับรองมาตรฐานแล้วประมาณ 370 สายพันธุ์