วันนี้ (3 ก.ย.2565) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบการจำนวนมากว่า ไม่สามารถนำพืชกระท่อม มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้ เนื่องจากติดระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
ทำให้เกิดข้อเปรียบเทียบ ระหว่างกัญชากับกระท่อม ทั้งที่กัญชา มาทีหลัง แต่ทำผลิตภัณฑ์ได้แล้ว เช่น เครื่องดื่ม ทำให้ผู้ประกอบการเกิดความสับสนที่ไม่สามารถต่อยอดพืชกระท่อมได้
ขีดเส้น 7 วันคลายปมกระท่อมผลิตอาหาร
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ปัญหาการขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สมุนไพร ยา อาหาร และเครื่องสำอาง ที่ผลิตจากพืชกระท่อม ซึ่งต้องขออนุญาตจาก อย.ตามประ กาศกระทรวงสาธารณสุข มีขั้นตอนการขอจำนวนมาก เพราะมีเอกสารกว่า 55 รายการ ต้องใช้เวลานานในการทำข้อมูล เป็นภาระกับผู้ประกอบการ และไม่ได้มุ่งเน้นช่วยเกษตรกร
นอกจากนี้ ยังมีข้อเปรียบเทียบว่า กระท่อมถูกจัดอยู่ในหมวดอาหารใหม่ ที่ต้องมีเรื่องเอกสารจำนวนมาก แต่กัญชากลับไม่ได้อยู่ในหมวดอาหารใหม่ จึงต้องผลักดันให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และต้องทำความชัดเจนให้สังคมรับรู้
ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งหาข้อสรุปภายใน 7 วัน เพื่อสร้างความชัดเจนให้กับประชาชน รวมถึงหากทำได้เร็วก็จะได้แย่งชิงตลาดแปรรูปกระท่อมได้ทัน
อ่านข่าวเพิ่ม ปลดล็อก "กระท่อม" จากยาเสพติด ครอบครอง-ซื้อขายได้
ยันขาดข้อมูลความปลอดภัยสุขภาพ
เภสัชกร วราวุธ เสริมสินสิริ ผอ.กองยุทธศาสตร์และแผนงาน ยืนยันว่า อย.ชั่งน้ำหนักระหว่างความปลอดภัย กับสนับสนุนผู้ประกอบการ หลักเกณฑ์ที่นำมาใช้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์อาเซียนที่ใช้กับทุกสมุนไพร โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ เพราะกระท่อม ไม่เคยกินใบมีแค่การเคี้ยวเท่านั้น
ถ้าทำเป็นผลิตภัณฑ์ ต้องมีการบดแปรรูป แล้วกินเข้าไป อย.ต้องประเมินถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ เพราะยังไม่มีข้อมูลทั้งหมด จึงมองว่าอาหาร เครื่องสำอาง ที่ผลิตจากกระท่อม เป็นของใหม่ ต้องใช้หลักฐานจำนวนมากในการขออนุญาต
เภสัชกร วราวุธ กล่าวอีกว่า ปัญหาคือเรื่องข้อมูล จึงต้องช่วยกันรวบรวมข้อมูล ตั้งทีมขึ้นมาสืบค้นของทั้งไทย และต่างประเทศ ส่วนข้อเสนอให้ผ่อนปรนหลักเกณฑ์ ให้ผู้ประกอบการสามารถขับเคลื่อนพืชกระท่อม
ยืนยันว่าไม่อยากพาประชาชนไปเสี่ยง ต้องช่วยกันพาผู้ประกอบการให้ไปถึงเกณฑ์ ซึ่งถ้าผ่านเรื่องความปลอดภัยไปได้ ก็จะสามารถมีผลิตภัณฑ์ออกมาได้จำนวนมากแบบปลอดภัย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เคี้ยว "ใบกระท่อม" ไม่ดีด-แค่เมา