ฝนถล่มพะเยา! เตือนระยองขนของขึ้นที่สูง รับมือน้ำท่วม

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ ในพื้นที่ อ.เมือง จ.พะเยา โดยเฉพาะ ต.เวียง และ ต.ท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมขังในระดับสูง จนทำให้รถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้ หรือสัญจรผ่านได้ด้วยความยากลำบาก

ขณะที่หลายพื้นที่ยังมีน้ำท่วมขังในระดับที่สูง โดยในพื้นที่ ต.เวียง บริเวณหน้าวัดศรีโคมคำ จนถึงใกล้แยกเข้าสุสานประตูเหล็ก และสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดพะเยา น้ำท่วมขังบนพื้นผิวถนนและในตัวสถานีขนส่งผู้โดยสาร รถเล็กสัญจรได้ด้วยความลำบาก จนทำให้รถที่จะเข้ามาส่งผู้โดยสารบางส่วนไม่สามารถเข้าไปยังจุดรับส่งได้

เช่นเดียวกับบริเวณถนนสายเอเชีย ช่วงแยกป่าแดง ทางเข้าตัวเมืองพะเยา ด้านหน้าโรงพยาบาลพะเยาราม ต.ท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา น้ำได้เข้าท่วมขังบริเวณผิวถนนบริเวณสี่แยก จึงทำให้รถวิ่งได้ช้าและติดกันเป็นแถวยาว ขณะที่สภาพอากาศ เมื่อวานนี้ตลอดทั้งวันท้องฟ้ายังคงถูกปกคลุมด้วยเมฆฝน

ขณะที่ชาวบ้านใน จ.นครสวรรค์ ที่ถูกน้ำท่วมขังมานานหลายวัน นอกจากคน สัตว์เลี้ยงก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ตอนนี้ชาวบ้านหลายชุมชนต้องใช้เรือในการสัญจรเขาออกหมู่บ้านขณะที่นาข้าวและพื้นที่ทางการเกษตรได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง

จ.นครสวรรค์ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย 7 อำเภอ คือ อ.ท่าตะโก อ.พยุหะคีรี อ.ตาคลี อ.บรรพตพิสัย อ.ตากฟ้า อ.เมืองนครสวรรค์ และ อ.ชุมแสง รวมพื้นที่ได้รับความเสียหาย 150 หมู่บ้านมีผู้ประสบภัยกว่า 4 พันคน พื้นที่เกษตรได้รับผละกระทบ 62,392 ไร่

ขณะที่ นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ได้เปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัยและดินถล่ม จ.นครสวรรค์ ปี 2565 เพื่อเป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการ การรวบรวมข้อมูล รองรับการสั่งการ ในภาวะฉุกเฉิน และสั่งการไปยังหน่วยงานปฏิบัติและหน่วยงานภาคสนามได้ทันที

นนทบุรีเร่งนำกระสอบทรายกั้นป้องกันน้ำล้นตลิ่ง

สถานการณ์ที่ จ.นนทบุรี ต้องเตรียมรับมือกับ 2 น้ำ คือ น้ำฝน และน้ำที่ระบายลงมาจากเขื่อนเจ้าพระยาเจ้าอาวาสวัดตำหนักเหนือ และชาวบ้าน ต.บางตะไนย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นำกระสอบทรายกั้นทำเป็นเขื่อนกั้นน้ำและเร่งเทปูน เพื่อป้องกันน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมวัดที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะระยะนี้มีการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา มีน้ำทะเลหนุน และฝนที่ตกหนักในพื้นที่ ทำให้ชาวบ้านเกรงว่า น้ำจะไหลเข้าท่วมวัด

ด้านเจ้าอาวาสวัดตำหนักเหนือ บอกว่า ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ละคืนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงขึ้นจนปริ่มขอบคันเขื่อน ทางวัดจึงสั่งทรายมา 20 คันรถ เพื่อเตรียมทำเป็นเขื่อนกันน้ำ หากคืนไหนฝนตกเยอะ และน้ำทะลเหนุนสูง อาจจะทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลเข้าท่วมวัด และสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นภายในวัด

ด้านเจ้าหน้าที่เทศบาลฯ ต้องนำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้งเพื่อสูบน้ำลงคลองต่าง ๆ เร่งด่วน เพราะเกรงว่าจะมีฝนตกลงมาอีก

ระยองน้ำทะลักขังที่ราบลุ่มชาวบ้านเริ่มขนของไว้ที่สูง

จ.ระยอง น้ำเริ่มทะลักเข้าท่วมขังในพื้นที่ราบลุ่มชุมชนทับมา ชาวบ้านเริ่มเก็บของขึ้นไว้ที่สูง พร้อมขนนำถุงทรายวางแนวป้องกันน้ำทะลักเข้าบ้าน เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม หลังจากฝนที่ตกลงมาต่อเนื่อง เริ่มเอ่อเข้าท่วมในชุมชนหนองมะหาด เทศบาลตำบลทับมา อ.เมืองระยอง ในหลายจุด โดยเฉพาะถนนสายหลักที่ผ่านชุมชนหนองมะหาด น้ำได้เอ่อเข้าท่วมถนนเป็นช่วง ๆ ระยะทางยาวกว่า 200 เมตร บางช่วงระดับน้ำสูงถึง 30 เซนติเมตร

ขณะเดียวถนนเข้าโครงการหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่มีบ้านเรือนเกือบ 200 หลังคาเรือน ถนนทางเข้าหมู่บ้านมีน้ำท่วมสูงกว่า 30 เซนติเมตร ประชาชนเริ่มได้รับความลำบากในการสัญจรไปมา นอกจากนี้ชาวบ้านได้ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และนำถุงบรรจุทรายมาวางทำเป็นแนวป้องกันน้ำทะลักเข้าบ้านเรือนแล้ว

นอกจากนี้ถนนสาย 36 ช่วง กิโลเมตรที่ 42 ยังมีปริมาณน้ำท่วมขังผิวถนนทั้ง 2 ฝั่ง ระยะทางยาวร่วม 200 เมตร ระดับน้ำสูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร ต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระยอง ตำรวจทางหลวงระยอง แขวงทางหลวงระยอง คอยอำนวยความสะดวกแก่ยวดยานที่แล่นผ่านเข้าออกเมืองระยอง เพราะเป็นจุดเสี่ยงอันตรายที่จะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ โดยเจ้าหน้าที่ได้เปิดให้ใช้ผ่านเพียง 1 ช่องจราจรเท่านั้นทั้งฝั่งขาเข้าและออก

นายอัธยา นวลอุทัย ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระยอง กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมภาพรวมในพื้นที่ จ.ระยอง ถึงขณะนี้ยังไม่พื้นที่ใดเกิดน้ำท่วมหนัก แต่ยอมรับว่าชุมชนหนองมะหาด เริ่มมีมวลน้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่แล้ว พร้อมเตือนประชาชนได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

ยโสธรย้ายวัวควายหนีน้ำ

น้ำท่วมไม่ได้ส่งผลกระทบกับคนเท่านั้น แต่สัตว์เลี้ยงอย่าง วัวและควาย ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะไม่มีแหล่งอาหารอย่างหญ้าสดให้กิน ชาวบ้านต้องต้อนฝูงวัวและควายไปเลี้ยงในพื้นที่อื่น

น้ำจากแม่น้ำชี ล้นตลิ่งไหลหลากเข้าท่วมนาข้าวของเกษตรกรบ้านหนองยาง ต.หัวเมือง อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร เป็นบริเวณกว้าง นอกจากจะทำให้นาข้าวได้รับความเสียหายแล้ว ตอนนี้วัวและควายก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะขาดแคลนแหล่งอาหารอย่าง หญ้าสด ที่ก็ถูกน้ำท่วมจนหมด

ชาวบ้านต้องต้อนวัวและควายไปเลี้ยงตามริมถนนทางเข้าหมู่บ้าน และบริเวณพื้นที่ของวัดใกล้กับหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่น้ำท่วมไม่ถึง เพื่อความปลอดภัย และให้วัวควายได้เล็มหญ้าไปพลาง ๆ ในช่วงที่ชาวบ้านหลายคนต้องพากันตระเวนไปเกี่ยวหญ้าตามพื้นที่สูงที่น้ำท่วมไม่ถึง ที่ระยะทางค่อนข้างไกล

ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือน 3 อำเภอ ของ จ.ยโสธร ประกอบด้วย อ.มหาชนะชัย อ.คำเขื่อนแก้ว และ อ.ป่าติ้ว ให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลและน้ำท่วมขัง ไปจนถึงวันที่ 10 กันยายนนี้