วันที่ 19 ก.ย.2565 นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียูเฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC" ว่า
โรคสปอโรทริโคซิส (Sporotrichosis) เกิดจากเชื้อราซึ่งพบในธรรมชาติ เข้าร่างกายทางบาดแผลจากการถูกแมวกัด หรือข่วน หรือถูกหนามกุหลาบตำ พบไม่บ่อย โรงพยาบาลวิชัยยุทธพบผู้ป่วยโรคนี้ 3 คน ใน 1 ปี
นพ.มนูญ กล่าวถึงผู้ป่วยรายแรก เป็นหญิงอายุ 51 ปี ใส่ถุงมือให้อาหารและทำความสะอาดแมวจรจัดที่ป่วยมีบาดแผลตามตัว ถูกเล็บแมวจิกที่หลังมือข้างซ้ายทะลุถุงมือ ทำให้เกิดแผล แมวตัวนี้อยู่ใน กทม. ตายหลังจากนั้น 1 สัปดาห์ ส่วนหญิงคนดังกล่าวภายหลังทายาปฏิชีวนะแผลที่มือหาย แต่ 2 สัปดาห์ต่อมาวันที่ 13 พ.ค.2565 เริ่มสังเกตมีตุ่มแดงที่หลังมือซ้าย ไม่มีอาการเจ็บ และมาพบแพทย์และตรวจร่างกายพบ ตุ่มแดงขนาด 0.5 ซม. ที่หลังมือข้างซ้าย บริเวณตรงกลางตุ่มมีหนองเล็ก ๆ ต่อมน้ำเหลืองไม่โต
แพทย์ใช้เข็มเจาะดูดหนองได้เล็กน้อย ส่งย้อมแบคทีเรีย เชื้อรา พบยีสต์จำนวนมาก (yeast cells) ได้เริ่มยาฆ่าเชื้อรา Itraconazole 100 มก. วันละ 2 ครั้ง วันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา ผลเพาะเชื้อรา ขึ้นเชื้อรา Sporothrix schenckii กินยา Itraconazole ตั้งแต่ 13 พ.ค.-16 ก.ย. 65 จนแผลแห้งดี
ผู้ป่วยรายที่ 2 เกิดจากหนามกุหลาบเกี่ยวผิวหนังที่แขนด้านขวาบน
ผู้ป่วยรายที่ 3 เลี้ยงแมว แต่ปฏิเสธถูกแมวข่วนหรือกัด เป็นที่ผิวหนังแขนข้างซ้าย
สำหรับเชื้อรา Sporothrix schenckii อยู่ในธรรมชาติ มีแหล่งอาศัยอยู่ตามดิน ตามพืช และเปลือกต้นไม้ เข้าร่างกายทางบาดแผลที่ถูกหนามตำ หรือใบไม้บาด หรือจากการถูกแมวที่ป่วยด้วยโรคนี้กัดหรือข่วน
เชื้อรานี้เมื่ออยู่ในร่างกายอุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส ดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ มีลักษณะเป็นยีสต์ หากอยู่ตามธรรมชาตินอกร่างกายอุณหภูมิต่ำกว่า จะมีลักษณะเป็นราสาย ส่วนการรักษาโดยทั่วไปใช้ยาฆ่าเชื้อราชนิดกิน Itraconazole นาน 3-6 เดือนจนกว่าแผลจะหาย
(ขอบคุณอาจารย์ ดร.พิริยาภรณ์ จงตระกูล ที่ปรึกษาแผนกจุลชีววิทยาโรงพยาบาลวิชัยยุทธ)