กรณีข่าวนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ผู้ต้องหาคดีรับจำนำข้าว ซึ่งปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางคลองเปรม ได้ออกนอกพื้นที่เรือนจำ เพื่อไปร่วมพิธีฝังศพนางสุมาลี เตริยาภิรมย์ แม่ที่เสียชีวิต
วันนี้ (20 ก.ย.2565) กรมราชทัณฑ์ ออกเอกสารชี้แจงระบุว่า การออกนอกพื้นที่เรือนจำฯ ของนายบุญทรง เพื่อไปร่วมงานศพดังกล่าว เป็นไปอย่างถูกต้องตามพ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 และระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการลาของนักโทษเด็ดขาด พ.ศ.2561 รวมถึงระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการลา ของนักโทษเด็ดขาด (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 เพื่อให้เป็นการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังอย่างมีมนุษยธรรม เป็นเครื่อง จูงใจให้ผู้ต้องขังประพฤติดี อยู่ในระเบียบวินัย เป็นผลดีต่อการปกครองและการบริหารงานของเรือนจำ/ทัณฑสถาน
รวมทั้งเป็นการให้โอกาสในการแสดงความกตัญญู และการไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย ถึงแม้นายบุญทรง จะอยู่ในความสนใจของประชาชน แต่ก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการทั้งยังเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นเยี่ยม และมีคุณสมบัติตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง
โดยเรือนจำกลางคลองเปรม มีอำนาจในการอนุญาตให้นายบุญทรง ได้ลากิจตามที่ร้องขอ ในระหว่างวันที่ 18-20 ก.ย.ที่ผ่านมา
โดยได้ประสานเรือนจำจังหวัดลำพูน และสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ เพื่อประสานการเดินทางไปร่วมพิธีศพได้ มีเจ้าหน้าที่เรือนจำฯ ควบคุมอย่างใกล้ชิด และนำตัวกลับทันทีที่เสร็จภารกิจ
อ่านข่าวเพิ่ม "บุญทรง" ลุ้นอุทธรณ์สู้คดี "ทุจริตระบายข้าว"
มีคุณสมบัติ-ให้สิทธิลาร่วมงานศพได้
นอกจากนี้ การลาและออกนอกพื้นที่เรือนจำดังกล่าว เป็นประโยชน์ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 มาตรา 52 เมื่อนักโทษเด็ดขาดคนใดแสดงให้เห็นว่ามีความประพฤติดี ไม่เป็นผู้กระทำผิดวินัยในเรือนจำ มีความอุตสาหะ ความก้าวหน้าในการศึกษา และทำการงานเกิดผลดี หรือทำความชอบแก่ทางราชการเป็นพิเศษ โดยต้องเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นกลางขึ้นไป และไม่ได้กระทำความผิด ซึ่งเป็นที่สะเทือนขวัญหรืออยู่ในความสนใจของประชาชน
หากได้รับอนุญาตให้ออกไปทำกิจธุระแล้ว อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดหรือสร้างความสับสนแก่ประชาชนได้ เมื่อมีความจำเป็นเห็นประจักษ์เกี่ยวด้วยกิจธุระสำคัญหรือกิจการในครอบครัวแล้ว อาจได้รับประโยชน์ในการลา แต่ห้ามมิให้ออกไปนอกราชอาณาจักร และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด
อ่านข่าวเพิ่ม ศาลฯสั่งชดใช้คดีจำนำข้าวจีทูจีกว่า 1.6 หมื่นล้าน
โดยผู้ต้องขังทุกคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์จะมีสิทธิ ได้รับการพิจารณาไม่เฉพาะแต่นายบุญทรงเท่านั้น และจะให้สิทธิเฉพาะการลาไปร่วมพิธีฌาปนกิจศพผู้ตายที่เป็น บิดา มารดา สามี ภรรยา และบุตรของนักโทษเด็ดขาดเท่านั้น โดยจะต้องมีใบมรณบัตรหรือหนังสือรับรองการตายมาเพื่อพิจารณาร้องขอ
ส่วนการพิจารณาว่าจะอนุญาตหรือไม่ จะต้องคำถึงความปลอดภัยของนักโทษเด็ดขาดและเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมเป็นหลัก และต้องมีเจ้าหน้าที่ทำการควบคุมอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายได้
ทั้งนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเมื่อวันที่ 6 ก.ย.2562 พิพากษา ชั้นอุทธรณ์คดีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ตัดสินจำคุกนายบุญทรง อดีต รมว.พาณิชย์ เพิ่ม 6 ปี รวมจำคุกเป็น 48 ปี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
จำคุกเพิ่ม 6 ปี ”บุญทรง” คดีระบายข้าวจีทูจี