วันนี้ (28 ก.ย.2565) กลุ่มสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) และเครือข่ายภาคประชาชนหลายองค์กร รวมตัวหน้าศาลจังหวัดลำปางเพื่อร่วมให้กำลังใจนางแสงเดือน ตินยอด หรือ วันหนึ่ง ยาวิชัยป้อง อายุ 55 ปี ชาวบ้านแม่กวัก ต.บ้านอ้อน อ.งาว จ.ลำปาง เข้ารับฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ ศาลจังหวัดลำปาง ในคดีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่โป่ง ซึ่งเป็นผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่า
โดยศาลฎีกาพิพากษา ยืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จำคุก 1 ปี ปรับ 400,000 บาท ดอกเบี้ยลดเหลือร้อยละ 5 จากเดิมในชั้นศาลอุทธรณ์ ร้อยละ 7.5 แต่ให้รอลงอาญาเอาไว้ก่อน และมีค่าปรับในคดีอาญา 50,000 บาท
ผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น ทนายความจำเลย ชี้แจงว่า พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ 2507 ระบุไว้ว่าก่อนการประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติ ได้เปิดโอกาสให้ราษฎรคัดค้านแล้ว แต่ชาวบ้านไม่ได้ไปคัดค้านภายใน 120 วัน จึงถือว่าสละสิทธิ์
คดีนางแสงเดือน ถือเป็นผลพวงของคำสั่ง คสช.ที่ 64/2557 หรือ "นโยบายทวงคืนผืนป่า" หลังถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท และ ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่โป่ง สั่งให้ตัดฟันต้นยางพารา 2 ครั้ง ในปี 2556 และ 2558 ก่อนถูกดำเนินคดีในปี 2561 ศาลชั้นต้นยกฟ้อง เพราะเห็นว่าทำกินในพื้นที่มาก่อนการประกาศเป็นป่าสงวนฯ ศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา กระทั่งศาลฎีกามีคำพิพากษาออกมาในวันนี้