วันนี้ (30 ก.ย.2565) ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์เฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics ระบุว่า จากฐานข้อมูลรหัสพันธุกรรมโควิดโลก “GISAID” พบโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2.75.2 ในประเทศไทยเพิ่มเป็น 3 คน ทั่วโลกพบเพิ่มเป็น 731 คน
โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2.75.2 มีการกลายพันธุ์เพิ่มเติมจาก BA.5 บนส่วนหนามถึง 13 ตำแหน่ง และมีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด ประมาณ 71% เมื่อเปรียบเทียบกับสายพันธุ์ BA.5 ที่ระบาดอยู่ทั่วโลกขณะนี้
ภาพ : เฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics
ขณะที่ฐานข้อมูลรหัสพันธุกรรมโควิดโลก “GISAID” ยังไม่พบโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BQ.1.1 ในประเทศไทย แต่ทั่วโลกพบเพิ่มเป็น 228 คน
โอมิครอน BQ.1.1 ทั่วโลกเพิ่มจาก 136 คนเมื่อ 7 วันก่อน เป็น 228 คนในวันนี้ (30 ก.ย.) ซึ่ง BQ.1.1 เป็นเหลนของโอมิครอน BA.5 มีการกลายพันธุ์ 3 ตำแหน่งสำคัญในลักษณะของ "convergent mutation/evolution" บนส่วนหนามคือ R346T, K444T และ N460K
ภาพ : เฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics
การกลายพันธุ์ตำแหน่ง N460K ของส่วนหนาม ช่วยให้อนุภาคไวรัสเข้าจับกับผิวเซลล์มนุษย์ได้ดี เพื่อแทรกเข้าภายในเซลล์เพื่อเพิ่มจำนวน เป็นการนำไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์ย่อยประเภทต่างๆ (ที่สร้างขึ้นในหลอดทดลอง pseudovirus) เข้าทำปฏิกิริยากับตัวจับบนผิวเซลล์สำเร็จรูป
พบว่า ทั้งโอมิครอน BA.2.75.2 และ BQ.1.1 สามารถยึดจับกับตัวจับบนผิวเซลล์ในหลอดทดลองได้ดี แสดงว่าการกลายพันธุ์ในส่วนหนามแหลมของไวรัสทั้ง 2 เพื่อหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันของร่างกาย ไม่ได้ทำให้การยึดเกาะของอนุภาคไวรัสกับเซลล์ที่ใช้ส่วนหนามเช่นกัน ด้อยประสิทธิภาพลงหรือสูญเสียไป
ขณะที่การกลายพันธุ์ตำแหน่ง R346T และ K444T จะช่วยหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันเป็นเลิศ ส่งผลให้โอมิครอน BA.2.75.2 จะดื้อต่อแอนติบอดีค็อกเทลอย่าง “เอวูเชลด์ (Evusheld)” แต่ “เบบเทโลวิแมบ (Bebtelovimab) ยังใช้ได้
ส่วน BQ.1.1 ดื้อต่อแอนติบอดีสำเร็จรูปทุกชนิดที่องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ ให้ใช้ได้ รวมทั้งแอนติบอดีค็อกเทลทั้ง “เอวูเชลด์ (Evusheld)” และ “เบบเทโลวิแมบ (Bebtelovimab)”
จับตา "ทวีปยุโรป-อเมริกาเหนือ" ระบาดหน้าหนาว
อย่างไรก็ตาม ต้องเฝ้าติดตามช่วงย่างเข้าฤดูหนาวของทวีปยุโรปและทวีปอเมริกาเหนือ ตั้งแต่เดือน ธ.ค.เป็นต้นไป หากประชาชนไม่สวมหน้ากากอนามัย ไม่เว้นระยะห่าง หลังมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ จะก่อให้เกิดการระบาดของโอมิครอน BA.2.75.2 หรือ BQ.1.1 หรือไม่
หรือ BA.5 ยังคงระบาดครอบคลุมพื้นที่เป็นส่วนใหญ่ ไม่เปิดโอกาสให้โอมิครอนสายพันธุ์ย่อยที่มีการกลายพันธุ์ไปมากกว่าสามารถเข้ามาแทนที่ได้ และถูกกำจัดไปด้วยกันด้วยวัคซีนเข็มกระตุ้น วัคซีนเจนเนอเรชัน 2 หรือภูมิที่ได้รับจากการติดเชื้อตามธรรมชาติ