เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2565 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า อีลอน มัสก์ ส่งจดหมายถึงบริษัททวิตเตอร์ โดยระบุว่า มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก เจ้าของบริษัทผลิตรถยนต์เทสลา บริษัท สเปซเอ็กซ์ และอีกหลายกิจการคนนี้ ตัดสินใจจะซื้อกิจการทวิตเตอร์อีกครั้งตามข้อตกลงเดิม ในราคาที่เคยเสนอไปครั้งแรก
ในจดหมายฉบับนี้ ทนายความของมัสก์ ระบุว่า มัสก์ตั้งใจที่จะดำเนินธุรกรรมนี้ให้เสร็จสิ้น และขอให้ยุติการดำเนินคดีทางกฎหมาย ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มัสก์ระบุว่าจะยกเลิกข้อตกลงดังกล่าว จนเป็นเหตุให้เกิดการฟ้องร้อง
ขณะที่โฆษกบริษัททวิตเตอร์ เปิดเผยว่า มัสก์ตั้งใจที่จะควบรวมกิจการที่หุ้นละ 54.20 ดอลลาร์สหรัฐ ตามที่ตกลงกันไว้เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของมัสก์ เกิดขึ้นก่อนกำหนดการที่ทั้ง 2 ฝ่ายต้องไปเจรจากันในชั้นศาล ในวันที่ 17 ต.ค.นี้ เนื่องจากความพยายามในการยกเลิกข้อตกลงซื้อกิจการของมัสก์ในครั้งแรก ทำให้บริษัททวิตเตอร์ดำเนินการฟ้องร้องมัสก์ ฐานละเมิดข้อตกลงเข้าซื้อกิจการมูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท และขอให้ศาลสั่งให้มัสก์ควบรวมกิจการตามที่ตกลงไว้ เนื่องจากการกลับคำไปมาขอมัสก์ส่งผลให้ราคาหุ้นของทวิตเตอร์ปรับตัวลดลงอย่างหนัก
ส่วนสาเหตุการยกเลิกข้อตกลงครั้งแรก มัสก์เคยเปิดเผยว่า เนื่องจากทวิตเตอร์ไม่เปิดเผยจำนวนที่แท้จริงของบัญชีผู้ใช้งานปลอมและสแปม ขณะที่ฝ่ายทวิตเตอร์ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และกล่าวหาว่ามัสก์ต้องการยกเลิก เพราะราคาตกลงในการซื้อขายสูงเกินไป
หลังจากมัสก์เปิดเผยว่าจะเดินหน้าซื้อกิจการอีกครั้ง ทำให้ราคาหุ้นของทวิตเตอร์สูงขึ้น 12.7% อยู่ที่ราคา 47.93 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ราคาหุ้นบริษัทเทสลาสูงขึ้นประมาณ 2.4%
อ่านข่าวอื่นๆ
"ทรัมป์" ฟ้อง CNN ปมหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 17,898 ล้านบาท
"สวานเต เพโบ" คว้าโนเบล 2022 สาขาการแพทย์ ผู้ค้นพบหลักการสำคัญในวิวัฒนาการมนุษย์