ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ในหลวง-พระราชินี" ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน

พระราชสำนัก
18 ต.ค. 65
20:14
710
Logo Thai PBS
"ในหลวง-พระราชินี" ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม

วันนี้ (18 ต.ค.2565) เวลา 16.23 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ไปยังวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ทรงวางพุ่มดอกไม้ และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

จากนั้น เสด็จเข้าพระอุโบสถ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ทรงรับผ้าไตรจากเจ้าพนักงานศุภรัต ทรงวางผ้าไตรเหนือพานแว่นฟ้า ซึ่งตั้งอยู่หน้าอาสน์สงฆ์ใกล้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธอังคีรส พระประธานพระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชสรีรางคาร สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 และพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ทรงหยิบผ้าห่มสำหรับพระประธานที่วางอยู่บนผ้าไตร พระราชทานเจ้าพนักงานภูษามาลา ทรงหยิบผ้าไตรที่พานแว่นฟ้าพาดระหว่างพระกร แล้วประนมพระหัตถ์ผินพระพักตร์สู่พระประธาน ทรงว่า "นะโม ตัสสะฯ" จบ 3 หน แล้ว ทรงกล่าวคำถวายผ้าพระกฐิน ทรงวางผ้าไตรไว้บนพานแว่นฟ้า ทรงประเคนผ้าไตรและเทียนปาฏิโมกข์แด่พระสงฆ์รูปที่ 2

แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะพระอัฐิ สมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงชินวราลงกรณ (วาสน์ วาสโน) พระราชอุปัธยาจารย์ ซึ่งประดิษฐานที่โต๊ะหมู่ ทรงทอดผ้าไตร 10 ไตรบนพระภูษาโยงที่อาส์นสงฆ์ พระสงฆ์ 10 รูปสดับปกรณ์ จบแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ถวายเครื่องบริวารพระกฐินแด่พระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐิน ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ถวายของที่ระลึกแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา

เวลา 17.11 น. เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นวัดที่ 2 โอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงปฏิบัติหน้าที่ผู้บังคับแถวทหารมหาดเล็กรับเสด็จ

สำหรับประเพณีกฐินมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย จัดขึ้นตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ซึ่งการถวายผ้าพระกฐิน ณ พระอารามหลวง หรือพระกฐินหลวง เป็นพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ ผู้ทรงเป็นเอกอัครพุทธศาสนูปถัมภก แต่เนื่องจากพระอารามหลวงในประเทศไทย มี 189 พระอาราม ไม่สามารถเสด็จพระราชดำเนินทุกพระอารามได้

จึงแบ่งพระกฐินเป็น 4 ประเภท คือ พระกฐินที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินด้วยพระองค์เอง, พระกฐินที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พระบรมวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินและเสด็จแทนพระองค์, พระกฐินที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พระบรมวงศานุวงศ์ ราชสกุล หรือ องคมนตรี และพระกฐินพระราชทาน ที่ให้ส่วนราชการ องค์กร หรือบุคคลที่สมควรขอรับพระราชทานเชิญไปทอดถวาย ณ พระอารามหลวง โดยยกเว้นพระอารามสำคัญ 16 พระอาราม

ในการนี้ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายฐาปน สิริวัฒนภักดี ไวยาวัจกรวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กราบบังคมทูลเบิกผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงิน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานของที่ระลึก

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร เดิมชื่อวัดโพธาราม หรือวัดโพธิ์ ซึ่งสร้างขึ้นระหว่างปี 2231 ถึง 2246 สมัยพระเพทราชา กรุงศรีอยุธยา ต่อมา สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวง มีพระราชาคณะปกครองตั้งแต่นั้นมา ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช มีการบูรณะใหม่

และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดงานฉลอง และพระราชทานนามใหม่ว่า "วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาวาศ" เป็นวัดประจำรัชกาล ต่อมาปี 2374 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบูรณปฏิสังขรณ์อีกครั้งเป็นเวลา 16 ปี จึงเสร็จสมบูรณ์ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ทรงปฏิสังขรณ์พระรัศมีพระพุทธไสยาสน์ และทรงเปลี่ยนชื่อเป็น "วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม" พร้อมทั้งทรงสถาปนาพระมหาเจดีย์ประจำรัชกาลที่ 4 ขึ้นในวัดอีกองค์หนึ่ง

ภายในวัด มีปูชนียสถานที่สำคัญ อาทิ พระอุโบสถ พระวิหาร พระเจดีย์ ศาลาการเปรียญ ศาลาราย พระพุทธรูปและพระมณฑป ปัจจุบัน มี สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เป็นเจ้าอาวาส มีพระสงฆ์ จำพรรษา 149 รูป เณร 33 รูป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง