วันนี้ (22 ต.ค.2565) ชาวนาบ้านพรุชิง ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา สวมอุปกรณ์ป้องกันตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อโรคเมลิออยโดสิสหรือไข้ดิน ในพื้นที่ อ.เทพา รวม 7 คน ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตถึง 5 คน
เครือข่ายสาธารณสุขอำเภอเทพา จึงต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ชาวบ้านในพื้นที่ โดยเฉพาะชาวนา ชาวสวนหรือเกษตรกรที่ต้องทำงานสัมผัสดินและแหล่งน้ำเป็นเวลานาน
นายมะยา ยูโซะ รักษาการ ผอ.รพ.สต.พรุชิง ระบุว่า โรคไข้ดินไม่ใช่โรคที่เกิดขึ้นใหม่ แต่เป็นโรคประจำถิ่นที่มักเกิดขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกิดจากแบคทีเรียที่อยู่ตามดินหรือแหล่งน้ำ สามารถพบได้ทั่วไป สามารถรับเชื้อได้จากการสัมผัสดินโดยตรง ผ่านบาดแผลตามร่างกายหรือทางลมหายใจ ผ่านการสูดดมไอดิน และจะสามารถก่อให้เกิดโรคได้ กรณีที่ผู้รับเชื้อไม่แข็งแรงจึงไม่มีภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้โรคนี้ไม่มีอาการจำเพาะจึงทำให้การวินิจฉัยเป็นไปได้ยาก บางคนไม่แสดงอาการในระยะแรกแต่สามารถป้องกันได้
ขณะที่ นพ.เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา ระบุว่าสถานการณ์โรคเมลิออยโดสิส ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 18 ก.ย.2565 ที่ผ่านมา เขตสุขภาพที่ 12 มีรายงาน ผู้ป่วยโรคไข้ดินแล้ว จำนวน 51 คน โดยจังหวัดที่พบผู้ป่วยสูงสุด คือ สงขลา จำนวน 24 คน โดยผู้ป่วยเพศชาย ร้อยละ 70.59 ผู้ป่วยเพศหญิง ร้อยละ 29.41 ผู้ป่วยที่พบส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มวัยทำงานและผู้สูงอายุ และรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 12 คน
จากการสอบสวนโรคพบว่า ผู้เสียชีวิตมีปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ มีโรคประจำตัว ประกอบอาชีพที่ต้องสัมผัสดินเป็นประจำ โดยไม่ได้สวมอุปกรณ์ป้องกันอย่างสม่ำเสมอ จึงขอให้มีการเฝ้าระวังและป้องกันตัวเอง โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนที่อาจมีเชื้อแบคทีเรียปะปนมาด้วย
