วันนี้ (24 ต.ค.2565) นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ อายุรแพทย์ทางด้านโรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC" ระบุว่า
เชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถคงอยู่ (persistent) ในร่างกายของผู้ป่วยที่เคยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็นเวลานาน กำจัดให้หมดไปไม่ได้ โดยยกเคส ผู้ป่วยชายอายุ 67 ปี เคยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองรักษาหายแล้วด้วยเคมีบำบัดเมื่อ 5 ปีก่อน มีปอดอักเสบจากไวรัสโควิด 4 ครั้ง ในเวลา 4 เดือน
ครั้งที่ 1 : ก.ค.2565 มีไข้ ไอ เหนื่อย เอกซเรย์ปอดมีฝ้าขาว รหัสพันธุกรรม RT-PCR SARS-CoV 2 บวก CT value 17.40 ได้ยาเรมเดซิเวียร์ทางเส้นเลือดครั้งแรก เมื่อวันที่ 23 ก.ค. เป็นเวลา 5 วัน หลังให้ปอดอักเสบดีขึ้น
ครั้งที่ 2 : ส.ค.2565 มีไข้ ไอ เหนื่อย และเอกซเรย์ปอดมีฝ้าขาว ATK บวก ได้ยาเรมเดซิเวียร์ทางเส้นเลือดเมื่อวันที่ 23 ส.ค. เป็นเวลา 10 วัน หลังให้ปอดอักเสบดีขึ้น
ครั้งที่ 3 : ก.ย.2565 มีอาการไอ เหนื่อย ตรวจ ATK บวก เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ได้ยาโมลนูพิราเวียร์กิน 5 วัน หลังกินยาดีขึ้น
ครั้งที่ 4 : ต.ค.2565 มีไข้ ไอ เหนื่อย ทำคอมพิวเตอร์สแกนปอด เห็นฝ้าขาว 2 ข้าง ตรวจรหัสพันธุกรรม RT-PCR SARS-CoV2 บวก CT value 19.04 ให้ยาเรมเดซิเวียร์ทางเส้นเลือดเมื่อวันที่ 19 ต.ค.2565
ผู้ป่วยได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั้งหมด 4 เข็ม แอสตราเซเนกา 2 เข็ม ไฟเซอร์ 1 เข็ม และโมเดอร์นา 1 เข็ม แต่ในผู้ป่วยรายนี้วัคซีนไม่ช่วยลดการป่วยหนัก ผู้ป่วยได้ Evusheld ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป ฉีดเข้ากล้ามโดสแรกวันที่ 16 ส.ค.2565 ซึ่งในต่างประเทศเขาแนะนำคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำเช่นผู้ป่วยรายนี้ให้ฉีด Evusheld 2 โดสในเวลาเดียวกันทุก 6 เดือน ได้ให้ Evusheld โดสที่ 2 วันที่ 22 ต.ค.2565
นพ.มนูญ กล่าวว่า ในอนาคตถ้าผู้ป่วยรายนี้มีปอดอักเสบจากโรคไวรัสโควิดกลับมาอีก คงต้องให้ยาต้านไวรัสหลายชนิดพร้อมกัน