ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

จับ "ปลัดอำเภอ-จนท.ปกครองสัตหีบ" คดีรับสินบนธุรกิจพูลวิลล่า

อาชญากรรม
28 ต.ค. 65
18:27
1,766
Logo Thai PBS
จับ "ปลัดอำเภอ-จนท.ปกครองสัตหีบ" คดีรับสินบนธุรกิจพูลวิลล่า
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ตำรวจสอบสวนกลาง จับปลัดอำเภอและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เรียกรับเงินสินบน เพื่อแลกกับการออกใบอนุญาตบ้านพักพูลวิลล่า โดยใช้วิธีการหย่อนเงินใส่ตู้บริจาคสภากาชาดไทยที่จัดเตรียมไว้โดยเฉพาะ

วันนี้ (28 ต.ค.2565) ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ท. ร่วมกันสืบสวนพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐ คนหนึ่ง จนพบหลักฐาน กระทำผิดเรียกรับสินบน จึงได้ร่วมกันจับกุม นายกัณฑ์พงษ์ ตำแหน่งปลัดอำเภอสัตหีบ (ชำนาญการพิเศษ) รักษาการนายอำเภอสัตหีบ และ นางสุภาพร เจ้าหน้าที่ปกครองฯ

คดีนี้เกิดขึ้นหลังจากผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เรียกรับเงินค่าออกหนังสือรับรองสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม (บ้านพัก Pool villa) จากผู้ประกอบการธุรกิจบ้านพักพูลวิลล่า ในพื้นที่ อ.สัตหีบ โดยฝ่ายปกครองอำเภอสัตหีบ จะใช้วิธีการให้ผู้ประกอบการนำเงินใส่ซองจดหมายเขียนชื่อบ้านพักแล้วนำไปหย่อนที่ตู้รับบริจาคสภากาชาดไทย ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองฯเตรียมไว้ให้โดยเฉพาะ โดยอ้างว่าเป็นค่าดำเนินการเพื่อแลกกับการออกใบรับรองบ้านพักฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองฯ จะเป็นผู้กำหนดราคาบ้านพักฯ หลังละ 15,000 บาท

หากผู้ประกอบการรายใดไม่จ่ายเงินดังกล่าว จะไม่ได้รับการออกใบรับรองหรือยื้อเวลาในการออกใบรับรองจนกว่าจะนำเงินมาจ่าย ทั้งที่โดยปกติการขอใบรับรองบ้านพักพูลวิลล่า นั้นจะไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงจัดกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงจนทราบว่า มีการทำกันเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน อาทิ หน้าม้าทำหน้าที่พาผู้ประกอบการมาทำเรื่องขอใบรับรอง คนรับเรื่องดำเนินการ และ คนนำเงินออกจากตู้บริจาค

ขณะที่วันนี้ ยังพบผู้เสียหาย เข้าไปขอใบรับรองและต้องจ่ายเงินลงตู้รับบริจาคเช่นเคย จากนั้น นางสุภาพร ได้เปิดตู้หยิบซองเงิน ไปให้นายกัณฑพงษ์ ซึ่งเป็นความผิดชัดเจนสอดคล้องกับข้อมูลของผู้เสียหายที่ร้องทุกข์ก่อนหน้านี้จึงแสดงตัวเข้าจับกุม โดยกล่าวหาว่า “เป็นเจ้าพนักงาน เรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อการกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือไม่ชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น โดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่”

ขณะเดียวกัน ในการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง