สัปดาห์นี้นับเป็นสัปดาห์แรกของการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไป นัดสุดท้าย ก่อนสภาฯ ชุดนี้ จะครบวาระ 4 ปี 23 มีนาคม 2566 เรียกว่าการประชุม "ดุเดือดและร้อนผ่าว" ทั้งการประชุมวุฒิสภาและประชุมสภาผู้แทนราษฎร มิหนำซ้ำยังเกิดเหตุ "สภาล่ม" ด้วยองค์ประชุมมีแค่ 183 คน ยิ่งสะท้อนความร้อนแรงทางการเมือง
สภาฯ ล่ม กลางวันแสก ๆ นับองค์ประชุมแล้ว ไม่ครบองค์ 238 คน มี ส.ส.ในห้องแค่ 183 คน โดยระหว่างนับองค์ประชุม ส.ส.ก็ใช้สิทธิ์อภิปรายหารือและเสนอแนะ ด้วยเนื้อหาที่คล้ายจะตีรวนบ้าง หรือคล้ายจะประวิงเวลาบ้าง แต่ก็ไม่เป็นผล บทสรุปคือ "ล่ม" ผลลัพธ์คือ ถูกหยิบไปตีความว่าเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงห้วงเวลา "ยุบสภา" ใกล้เข้ามาเต็มทีแล้วหรือไม่
หรือจะมองไปที่ก่อนหน้านี้ ก็งัดข้อ-ชิงไหวชิงพริบกัน ระหว่าง ส.ส.พรรครัฐบาลกับพรรคฝ่ายค้าน ผ่านการพิจารณา-เห็นชอบร่างกฎหมายสุราก้าวหน้า ที่พรรคก้าวไกลเป็นผู้เสนอ โหวตรอบแรก 173 ต่อ 177 ไม่ผ่าน ทันทีนั้น ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ก็ขอนับใหม่-แบบขานชื่อ เหตุแพ้เฉียดฉิว 4 เสียง
และเมื่อบรรยากาศไม่สู้ดี ขอนับองค์ประชุมด้วยผล 257 จากที่ต้องใช้ 238 คน ถือว่าครบ ก็เดินหน้าขานชื่อ-ขานคะแนน แต่ก่อนปิดลงคะแนน ยังมีข้อผิดสังเกต เหตุจาก ส.ส.มากกว่า 30 คน ทยอยขอใช้สิทธิ์เพิ่ม และส่วนใหญ่ "ไม่เห็นด้วย" เมื่อท้วงติง ก็ไม่เป็นผลอีก
บทสรุป จึงออกมา 194 ต่อ 196 เกินคาด แต่นับว่า ไม่เหนือความคาดหมาย "คว่ำร่างกฎหมายสุรา" ตามเกมไม่เอาร่างกฎหมายพรรคฝ่ายค้าน แต่ให้การผลิตสุรายึดตามกฎกระทรวง ที่ ครม.เห็นชอบ ก่อนวันโหวตร่างกฎหมาย ที่รัฐบาลชิงตัดหน้า หวังผลไปก่อนเพียงแค่ค่ำคืนวันเดียว
นี่ยังไม่นับการประชุมวุฒิสภา รับหลักการ 179 ต่อ 4 รับหลักการร่างกฎหมาย กยศ. พร้อมตั้งกรรมาธิการฯ พิจารณา 30 วัน ส่อเค้าปรับแก้ "ปลอดดอกเบี้ย-ไม่มีค่าปรับ" กลับไปใช้ "ขั้นต่ำ" แล้วส่งสภาฯ ยืนยันรอบสอง เสี่ยงหลุดกรอบปิดสมัยประชุม อาจเป็นเหตุให้ตกไปได้
ทั้งหมดที่ว่านี้ จึงเป็น 4 วันของการเปิดสมัยประชุม "1 พฤศจิกายน ถึง 28 กุมภาพันธ์" นัดสุดท้ายก่อนครบวาระ 23 มีนาคม 2566 ที่ดุเดือด-ร้อนผ่าว ประกอบกับปัจจัยทางการเมืองที่คล้ายจะเริ่มลงตัวมากขึ้น โดยเฉพาะปมเตรียมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งของพรรคพลังประชารัฐ พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค นัดตรวจแถว ส.ส."ใครจะอยู่-ใครจะไป" 11 พฤศจิกายนนี้
และมีรายงานว่า คิวต่อไปคือการขอคำตอบจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเข้าสมัครสมาชิกหรือไม่ ท่ามกลางกระแส "ขอไปต่อ" แต่จะไปต่อกับพรรคอื่น หรือจะพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือจะพรรคใหม่ถอดด้าม หรือสุดท้ายแล้ว ขอลอยตัว รอเทียบเชิญเป็นนายกฯ ในบัญชีของพรรค โดยไม่สังกัดพรรคใดก็ได้ ซึ่งบริบททั้งหมด กำลังถูกตีความว่า สัญญาณยุบสภา ใกล้เข้ามาแล้ว
วิเคราะห์โดย : เสาวลักษณ์ วัฒนศิลป์
อ่านข่าวอื่น ๆ
มท.1 แจงกระทู้สดปมขายที่ดินต่างชาติ "ล้มได้-ไม่เสียหน้า"