นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์รายการ “ประจักษ์จับประเด็น” ทางไทยพีบีเอสออนไลน์ ประเด็น “2 ป.” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แยกทางกันเดิน โดยกล่าวว่า เป็นไปตามกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์จะแยกไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ไม่ได้เข้าไปมีบทบาทมากถึงขั้นบริหาร ไปเป็นเพียงส่วนหัวหรือเป็นที่ปรึกษาเท่านั้น
นายวีระกร กล่าวว่า แต่ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ป.ยังเหมือนเดิม ทั้งนี้ตนได้เจอ พล.อ.ประวิตร ครั้งหลังสุดระหว่างไปรอรับ “บิ๊กป้อม” ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมที่ จ.กำแพงเพชร แล้วได้มีโอกาสคุยกันสั้นๆ
“บิ๊กป้อม” บอกว่า ถ้า “บิ๊กตู่” อยากเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ ก็ปล่อยเขาเถอะ ฟังแล้วไม่ติดใจว่าอยากเป็นนายกฯ แต่สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกฯ ได้อีกเพียงประมาณ 1 ปี 9 เดือน และต้องมีการเจรจาต่อรองกับพรรคการเมืองอื่น ในการจัดตั้งรัฐบาล ถือเป็นเรื่องยาก และเป็นต้นทุนอย่างหนึ่ง
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยสถานภาพของสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.ประกอบด้วย เพราะจะครบวาระ 5 ปี วันที่ 11 ก.พ.2567 หากมีการโหวตเลือกนายกฯ ประมาณต้นเดือนก.ค.2566 เท่ากับ พล.อ.ประยุทธ์ จะเหลือเวลาเป็นนายกฯ อีกเพียงประมาณ 10 เดือน
จึงจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก บ้านเมืองอาจจะเกิดความวุ่นวาย โดยเฉพาะในสภาฯ เพราะทุกพรรคการเมืองต่างก็อยากจะเป็นนายกฯ ทั้งสิ้น แนวทางหวังแก้รัฐธรรมนูญเรื่องปม 8 ปี นายกรัฐมนตรี คงไม่มีพรรคการเมืองไหนอยากให้มีการต่อเวลาออกไป
“2 ป.ไม่มีอะไรแตกแยกกัน ตอนไปก็ลาตอนมาก็ไหว้ เป็นการแยกกันเพื่อร่วมกันตีมากกว่า แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะสำเร็จหรือเปล่า เพราะไม่ได้แยกออกไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ หาคนใหม่ ไม่เอาสมาชิกเดิมจากพรรคพลังประชารัฐ แต่จะกลายเป็นการตกปลาในบ่อเพื่อน แล้วสุดท้ายจะกลายเป็นพรรคที่เล็กลง 2 พรรค ไม่ใช่พรรคใหญ่” นายวีระกร นักการเมืองอาวุโส เป็น ส.ส.มาแล้ว 8 สมัย และเคยเป็นรัฐมนตรีรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ วิเคราะห์สถานการณ์
นายวีระกรกล่าวด้วยว่า พล.อ.ประวิตร ไม่ได้หวังจะเป็นนายกรัฐมนตรีแข่งกับพล.อ.ประยุทธ์ แต่ก็เป็นไปได้ หากพล.อ.ประยุทธ์ประเมินจากปัจจัยต่าง ๆ รวมทั้งกรอบเวลาการเป็นนายกฯ ที่จะสั้นมากแล้ว ตัดสินใจสนับสนุน พล.อ.ประวิตรให้เป็นนายกรัฐมนตรีแทน หรือ พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีก่อน ประมาณ 10 เดือน
และก่อนที่ ส.ว.จะครบวาระ ไม่สามารถโหวตร่วม เลือกนายกรัฐมนตรีได้แล้ว อาจตัดสินใจลาออก เปิดทางให้ที่ประชุมรัฐสภาโหวตเลือก พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐนตรีต่อ แทนที่จะปล่อยให้ ส.ว.ครบวาระ เพราะตอนนั้น โอกาสของ พล.อ.ประวิตรจะน้อยลง เมื่อเหลือเฉพาะ ส.ส.โหวตเลือกนายกฯ
ส่วนท่าที ส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐ ขณะนี้ นายวีระกรกล่าวว่า มีส่วนหนึ่งอยู่ระหว่างการตัดสินใจ แต่ตนเชื่อว่า 60-70 % น่าจะยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ อีก 1 ใน 3 ยังลังเลอยู่ว่าจะย้ายตามพล.อ.ประยุทธ์หรือไม่
แต่คาดว่านายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และผอ.พรรค คงจะย้ายตาม เมื่อดูจากท่าทีการแสดงออก จากนั้นเชื่อว่าทั้ง 2 พรรค ก็ต้องกำหนดยุทธศาสตร์การหาเสียงเตรียมการเลือกตั้ง
และเป็นไปได้ที่อาจจะหลีกทางกัน ในสนามเลือกตั้งบางพื้นที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังมีคะแนนนิยมจากโพล ทั้งในพื้นที่ภาคใต้ และกรุงเทพฯ รวมถึงอีกบางพื้นที่ เช่น ชลบุรี ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ ก็ต้องปรับยุทธศาสตร์ให้สอดคล้อง หาพื้นที่ของตนเองเพิ่มเติม หลีกเลี่ยงการทับซ้อนกับพรรครวมไทยสร้างชาติ
ผมยืนยันยังอยู่พรรคพลังประชารัฐเช่นเดิม
นายวีระกร กล่าวทิ้งท้าย