นายพุฒิพงศ์ กิตติพราภรณ์ ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการ โรงละครสยามนิรมิต จ.ภูเก็ต กล่าวว่า หลังสยามนิรมิตได้หยุดให้บริการนานกว่า 2 ปี จากปัญหาโควิด-19 ซึ่งขณะนั้นได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก เนื่องจากต้องหยุดให้บริการในช่วงแรกยังสามารถดูแลพนักงานได้ แต่เมื่อปัญหายังไม่คลี่คลายจึงจำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงานส่วนใหญ่และเหลือไว้เพียงพนักงานที่ดูแลอาคาร สถานที่และอุปกรณ์ เพื่อให้ยังคงอยู่ในสภาพที่ดี เนื่องจากยังคงเชื่อมันว่าจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ขณะนี้นักแสดงหลายคน ก็ยังคงติดต่อกัน และสอบถามเพื่อเตรียมความพร้อมกรณีการกลับมาเปิดอีกครั้ง
ตอนแรกที่เพิ่งรู้จักโควิดใหม่ ก็คิดว่าอาจใช้เวลาไม่นาน ก็หยุดโชว์ตามคำสั่งภาครัฐ ก็ช่วยเหลือพนักงานส่วนหนึ่งเพื่อให้ดำเนินชีวิตได้ แต่เราก็ตั้งใจกลับใจเปิดใหม่ แต่ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ แต่เมื่อติดตามข่าวสารก็พบว่าไม่จบเร็วแน่ ๆ จึงตัดสินใจปล่อยพนักงานส่วนใหญ่ออกไปโดยเหลือพนักงานที่ต้องดูแลอุปกรณ์ อาคารต่าง ๆ ไว้ก่อน พนักงานที่ต้องเลิกจ้างในช่วงวิกฤตโควิด เราก็จะให้เงินชดเชยไปจำนวนหนึ่ง พนักงานก็สามารถไปประกอบอาชีพในช่วงที่โรงละครหยุดให้บริการ
ทั้งนี้เมื่อสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย ทางโรงละคร ก็ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการซ่อมแซมวัสดุอุปกรณ์ อาคารสถานที่ให้กลับมามีความพร้อมซึ่งใช้เวลาหลายเดือนก่อนที่จะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในช่วงต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการประมาณ 1 เดือน จำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ราวร้อยละ 30 -40 เปอร์เซนต์ รวมถึงการปรับปรุงโชว์ให้ดีขึ้นอีก
ด้วยความที่โชว์เรามาตรฐานของค่อนข้างสูง และมีโชว์ที่ค่อนข้างดี เมื่อพนักงานกลุ่มเดิมกลับมา ก็ต้องมีการฝึกซ้อมเพื่อให้สมกับความคาดหวัง โดยตอนที่ตั้งเป้าว่าจะเปิดในต้นเดือน พ.ย. ใช้เวลาในการเตรียมตัวเกือบ 6 เดือน เพื่อให้การกลับมาสมบูรณ์ที่สุด
อย่างไรก็ตาม ด้วยจุดแข็งของการแสดงที่เป็นวัฒนธรรมไทย ทำให้ยังคงเชื่อมั่นว่า แม้กลุ่มนักท่องเที่ยวหลักอย่างประเทศจีนที่ขณะนี้ยังไม่สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยได้ แต่ก็เชื่อว่าจะยังสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ได้ ซึ่งขณะนี้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย อินเดีย ที่มาใช้บริการรวมถึงชาวไทยด้วย
การปิดให้บริการในช่วงที่ผ่านมาเพราะโควิด ไม่ได้เกิดจากเรา หรือจากการบริหารงานของเรา เราก็ต้องทำใจยอมรับ และอดทน เพื่อให้ผ่านมันไป วันนี้เราก็ถือว่าโอเคแล้ว
ทั้งนี้ ในช่วงวิกฤตโควิด ที่ยังไม่สามารถเปิดให้มีการท่องเที่ยวได้ ทำให้ต้องปิดให้บริการ สยามนิรมิต สาขากรุงเทพฯ ประกอบกับสัญญาเช่าที่ที่สิ้นสุดลง จึงปิดสาขาดังกล่าวและมาเน้นที่สาขาภูเก็ต เพียงแห่งเดียว
ขณะที่ อีกหนึ่งธุรกิจคือ สวนสนุก "ดรีมเวิลด์" ที่ได้รับผลกระทบในช่วงโควิดเช่นกัน ก็กลับมาเปิดให้บริการก็ทำให้ภาพรวมของบริษัทดีขึ้นกว่าเดิม
ด้าน น้องเกตุ หนึ่งในนักแสดงของโรงละครสยามนิรมิต กล่าวว่า ตนเองเป็นชาวสมุทรปราการและมาประกอบอาชีพนักแสดงที่โรงละครแห่งนี้ มาเป็นระยะเวลากว่า 9 ปี ซึ่งรายได้ขณะนั้นค่อนข้างดี คือ เงินเดือนอยู่ที่อย่างน้อย 15,000 บาท ประกอบกับการมีอีเวนต์ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวหรืองานสำคัญ ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้สามารถดูแลพ่อแม่และลูกได้
แต่เมื่อเกิดปัญหาโควิด และโรงละครหยุดให้บริการจึงต้องมีการเลิกจ้างพนักงานและตนเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ก็ได้เงินมาจำนวนหนึ่ง และนำไปประกอบอาชีพอื่นเช่น ขายหมี่ผัดโบราณ ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งก็ช่วยประคับประคองให้ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ รวมถึงมีความข่วยเหลือจากโรงละครคือมีที่พักให้ฟรี โดยตนเองจ่ายเพียงค่าน้ำค่าไฟ จึงทำให้ลดภาระในช่วงที่ไม่มีงานแสดงไปได้
ขณะที่ทางโรงละครยังคงติดต่อและสื่อสารผ่านไลน์กรุ๊ปของบริษัทอยู่ตลอด เพื่อให้พนักงานที่ยังต้องการกลับมาร่วมงานทำการแสดงกลับมาทำงานได้อีกครั้งเมื่อเปิด ซึ่งเมื่อมีการเปิดครั้งนี้ก็ดีใจ และกลับมาทำงานที่โรงละครอีกครั้ง โดยใช้เวลาซ้อมในการรื้อฟื้นการแสดงไม่นานนัก ก็กลับมาทำการแสดงอีกครั้งได้
น.ส.เกตุ กล่าวว่า จากนี้ไปหลังผ่านสถานการณ์โควิด-19 จากเดินที่เคยใช้เงินที่อาจวางแผนไม่รัดกุมหรือมีระเบียบวินัยมากนักก็จะเน้นวางแผนการเงินให้ดีขึ้น เนื่องจากไมีทราบว่าในอนาคตจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สตรีตฟู้ด "หาดกะหลิม" วิวหลักล้าน-อาหารหลักสิบ ฟื้นชีวิตคนภูเก็ต