แม้น้ำทะเลจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น จนปิดทับสันทรายที่เชื่อมต่อเกาะ 3 เกาะ คือ เกาะไก่ เกาะหม้อ และเกาะทับ แต่นักท่องเที่ยวจำนวนมากก็ยังเดินข้ามสันทรายใต้น้ำ ระหว่างมาท่องเที่ยวที่ "ทะเลแหวก" หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวอันซีนของไทยมากขึ้นในช่วงปีนี้
ห่างออกไม่มากนัก ภูเขาหินรูปร่างแปลกตา คล้ายคอไก่ กลางท้องทะเล ก็เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญ ที่นักท่องเที่ยวมาเยือนจำนวนไม่น้อยในปีนี้
และอีกหนึ่งกิจกรรมที่ขาดไม่ได้ คือ การดำน้ำดูปะการัง ที่เกาะไร่เลย์ที่อยู่ห่างออกมาไม่มากนัก ความสวยงามของปะการังที่ค่อย ๆ ฟื้นตัวอย่างมาก หลังอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพีได้ปิดเกาะเพราะการระบาดของโควิด-19 ทำให้ธรรมชาติถูกเยียวยาและฟื้นคืน จึงได้เห็นภาพฝูงปลาสวยงามที่แวกว่ายใกล้ ๆ นักท่องเที่ยว และแนวปะการังสีสันสดใส สร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยเเละต่างชาติ
หนึ่งในผู้ประกอบการเรือนำเที่ยว 4 เกาะ คือ ทะเลแหวก เกาะปอดะ เกาะไก่ เเละหาดไร่เลย์ กล่าวว่า หลังการเปิดของอุทยานฯ เเละการฟื้นตัวของธรรมชาติที่ได้พักฟื้นเต็มที่ในช่วง 2 ปี ทำให้นักท่องเที่ยวอยากมาสัมผัส ส่งผลให้เรือนำเที่ยว โดยเฉพาะเรือประมงนำเที่ยวพื้นบ้าน ที่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมีรายได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ธรรมชาติที่สวยงามของเกาะต่าง ๆ และเส้นทางคมนาคมที่สะดวกโดยเฉพาะการมีสนามบินนานาชาติรองรับที่ จ.กระบี่ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของสายการบินตรงจากประเทศต่าง ๆ ทำให้นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ เชื่อว่า จะเป็นจุดแข็งในการดึงดูดนักท่องเที่ยว กลุ่มใหม่ เช่น อินเดีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีหลังการไปทำโรดโชว์
จากข้อมูลของการท่องเที่ยว จ.กระบี่ พบว่า มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่ ช่วง 10 เดือนแรกของปี 2565 มีนักท่องเที่ยวเข้ามากระบี่กว่า 1,300,000 คน อัตราการเข้าพักโรงแรมเฉลี่ยอยู่ที่ ร้อยละ 23.52 ทำให้เกิดรายได้หมุนเวียนจากการท่องเที่ยวโดยรวมกว่า 12,000 ล้านบาท