วันนี้ (15 ธ.ค.2565) สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน มีมติประกาศค่าไฟฟ้างวดใหม่ หรือรอบบิลค่าไฟเดือน ม.ค. - เม.ย.2566 เป็น 2 กลุ่ม คือ ประเภทที่อยู่อาศัย มีอัตราค่าไฟที่ 4.72 บาทต่อหน่วย และผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นที่ 5.69 บาทต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้นราวร้อยละ 21 เป็นไปตามมติคณะกรรมนโยบายพลังงานแห่งชาติที่ให้ กกพ. ทบทวนค่าไฟฟ้า เพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า กกพ. ได้ปรับปรุงแนวทางการคำนวณค่า Ft งวดใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับมติ กพช. เช่น ปตท. ทบทวนการประมาณการราคาก๊าซธรรมชาติใหม่อีกครั้ง การเพิ่มการใช้น้ำมันดีเซลและน้ำมันเตาทดแทนการนำเข้าก๊าซฯ LNG และเพิ่มปริมาณก๊าซในอ่าวไทยในการผลิตไฟฟ้า
พร้อมกับปรับปรุงสมมติฐานราคานำเข้า LNG แบบตลาดจร อ้างอิงตามแนวโน้มที่ดีขึ้น ส่งผลให้ประมาณการราคา Pool Gas ลดลงจาก 552 บาทต่อล้านบีทียู เป็น 493 บาทต่อล้านบีทียู จะทำให้บ้านอยู่อาศัยสามารถใช้ก๊าซในราคา 238 บาทต่อล้านบีทียู
ส่วนภาระหนี้สินสะสมของ กฟผ. ให้ทยอยจ่ายคืนหนี้เอฟทีคงค้างเพื่อไม่ให้เป็นภาระปัญหาสภาพคล่องของ กฟผ. และไม่เกิดภาระต่อผู้ใช้ไฟฟ้ามากเกินไป จำนวน 122,257 ล้านบาท โดยเฉลี่ยการเรียกเก็บไปเป็นเวลา 2 ปี
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาภาคเอกชนได้คัดค้านการปรับขึ้นค่าไฟต่อเนื่อง โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า หากปรับขึ้นค่าไฟจะส่งผลให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องทยอยปรับขึ้นราคาสินค้าประมาณ 5-12% และกระทบต่อขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศอย่างมาก รวมถึงการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่กำลังย้ายฐานท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง