วันนี้ (26 ธ.ค.2565) ทางการมณฑลเจ้อเจียงซึ่งมีประชากร 65.4 ล้านคน เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเมืองวันละร่วม 1 ล้านคน และเจ้าหน้าที่คาดว่า จำนวนผู้ติดเชื้ออาจเพิ่มสูงขึ้นถึงวันละ 2 ล้านคนในช่วงวันปีใหม่
ขณะนี้ ในบรรดาผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 13,583 คน อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล มีผู้ป่วย 1 คนที่มีอาการรุนแรงจากการติดเชื้อโดยตรง ขณะที่ 242 คน อยู่ในอาการวิกฤตจากโรคประจำตัวร่วมด้วย
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เปิดเผยด้วยว่า สัปดาห์ที่แล้ว มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่คลินิกไข้มากถึง 408,400 คนต่อวัน ซึ่งมากกว่าปกติถึง 14 เท่า และเมื่อวานนี้ มีรายงานว่า มีผู้ติดต่อศูนย์ฉุกเฉินในเมืองเอกของมณฑลมากกว่าปีที่แล้วถึง 3 เท่า
แม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจะพุ่งสูงทั่วประเทศ แต่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน หรือ CDC ไม่มีรายงานพบผู้เสียชีวิตเพิ่มจากโควิด-19 เป็นเวลา 5 วันติดต่อกันแล้ว
ปักกิ่งยกระดับรับมือผู้ป่วยโควิด-19
ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางการกรุงปักกิ่งออกมายอมรับว่า ไม่สามารถติดตามผู้ติดเชื้อทั้งหมดได้ นับตั้งแต่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มและยกเลิกมาตรการตรวจหาเชื้อรอบเมือง
ล่าสุด โรงพยาบาลในเมืองหลายแห่งยกระดับรับมือจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล เปิดเผยว่า ต้องรับมือกับผู้ป่วยมากกว่า 530 คนต่อวัน โดยผู้ป่วยในห้องฉุกเฉินจำนวนมากเป็นผู้สูงวัยอายุมากกว่า 65 ปี ที่มีโรคประจำตัวและส่งผลให้อาการติดเชื้อรุนแรงมากขึ้นและอาการของผู้ป่วยในห้องฉุกเฉินส่วนใหญ่มีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำเพียง 50 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์
ทางโรงพยาบาลมีการติดตั้งเครื่อง Extracorporeal Membrane Oxygenation (ECMO) ในทุกแผนกเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยวิกฤต นอกจากนี้โรงพยาบาลได้จัดตั้งสายด่วนให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญกังวลโควิด-19 ในจีนอาจกลายพันธุ์
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนยังกังวลว่า การระบาดที่พุ่งสูงในจีนอาจทำให้เชื้อเกิดการกลายพันธุ์ได้ เนื่องจากจีนมีประชากรจำนวนมากและมีภูมิต้านทานที่จำกัด และแม้ว่าอัตราการฉีดวัคซีนโดยรวมจะสูง แต่ระดับผู้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นต่ำ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดสายพันธุ์ใหม่
อีกสิ่งที่ไม่ทราบ คือ ตัวแปรใหม่จะทำให้เกิดอาการที่รุนแรงขึ้นหรือไม่ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ไม่มีเหตุผลทางชีววิทยาว่าไวรัสจะต้องอ่อนแอลงเมื่อเวลาผ่านไป ขณะที่การพบว่าเชื้ออ่อนลงในช่วง 6-12 เดือนที่ผ่านมาในหลายพื้นที่ของโลก เกิดจากภูมิคุ้มกันสะสมไม่ว่าจะผ่านการฉีดวัคซีนหรือการติดเชื้อ ไม่ใช่เพราะไวรัสมีการเปลี่ยนแปลง
อีกทั้งในประเทศจีน คนส่วนใหญ่ไม่เคยสัมผัสกับโควิด-19 มาก่อน และวัคซีนของจีนใช้เทคโนโลยีที่เก่ากว่า ซึ่งผลิตแอนติบอดีน้อยกว่าวัคซีน RNA ของตะวันตกอีกด้วย