วันนี้ (26 ธ.ค.2565) นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน และนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยว่า ขณะนี้อัยการสูง ได้สั่งตั้งศูนย์อำนวยการร่วมระหว่างพนักงานสอบสวนตำรวจ กับพนักงานอัยการ ในทุกขั้นตอนโดยไม่มีวันหยุดเพื่อให้สำนวนการสอบสวนเสร็จภายกรอบระยะเวลาที่กำหนดฝากขังผู้ต้องหา ครั้งที่ 6 คือ ภายในวันที่ 8 ม.ค.2566
จับแล้ว 10 จาก 15 หมายจับ คดีร่วมฟอกเงิน "ตู้ห่าว"
สำหรับผลการดำเนินการได้เสนอขอให้ศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมจากกลุ่มเดิม 15 หมาย และสามารถควบคุมตัวได้แล้วในขณะนี้จำนวน 10 คน โดยในจำนวนนี้มี พ.ต.อ หญิง วันทนารีย์ กรณ์ชาญานันท์ ภรรยานายตู้ห่าว และนางพัชรินทร์ อิทธิวัฒนา คนสนิท ถูกนำมาสอบสวนแล้ว เมื่อวานนี้ (25 ธ.ค.) ก่อนขออำนาจศาลฝากขัง เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน เผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และการสอบสวนยังไม่เสร็จ แต่ก็มีพยานหลักฐานมากพอที่จะออกหมายจับเพิ่ม 15 หมายภายใน 1 สัปดาห์ โดยแบ่งเป็นผู้ต้องหา 2 กลุ่ม คือ กลุ่มร่วมกันฟอกเงิน และกลุ่มร่วมกันสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และแจ้งข้อหาแตกต่างกันไปตามความผิดแต่ละคน เช่น สมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด อันเป็นการกระทำขององค์กรอาชญากรรม, ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และ วัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 โดยไม่ได้รับอนุญาต, สมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน, และร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าคดีนี้หลักฐานเชื่อมโยงชัดเจนว่าเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ มีสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นผู้มีอำนาจรับผิดชอบ โดยได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนของตำรวจเป็นผู้รวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งหลักฐานบางชิ้นอยู่ต่างประเทศ ก็จะมีขั้นตอนในการประสานขอความร่วมมือไปยังประเทศนั้น ๆ เพื่อให้ส่งพยานหลักฐานกลับมาประกอบในสำนวน
ส่วนนายตู้ห่าว ขณะนี้พนักงานอัยการมีพยานหลักฐานชัดเจนว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน และอยู่ระหว่างการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมภายใน 1-2 วันนี้ เนื่องจากความผิดเดิมของนายตู้ห่าวคดียาเสพติดเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน อัยการได้ประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ให้ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สิน เพื่ออายัดทรัพย์นายตู้ห่าว ยืนยันว่า หากพบบุคคลใดเข้ามาเกี่ยวข้อง คณะทำงานพร้อมดำเนินคดีโดยทันที
ทั้งนี้ อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ยังฝากเตือนว่า บุคคลที่เผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสาร ที่อาจส่งผลกระทบต่อรูปคดี ตามกฎหมายแล้วอาจเข้าข่ายความผิดฐานขัดขวางกระบวนการสืบสวนสอบสวนได้
ชูวิทย์ ร่วมฟัง อัยการ ชี้แจง
ขณะที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้เดินทางมาร่วมฟังแถลงข่าวในครั้งนี้ และได้สอบเกี่ยวกับการรวบรวมพยานหลักฐานของตำรวจ และการประสานการทำงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีปัญหา เพราะกังวลว่าสำนวนจะไม่สมบูรณ์พอที่จะเอาผิดขบวนการนายตู้ห่าวได้
นายกุลธนิต ตอบว่า อัยการไม่ได้รับสำนวนจากตำรวจมาเพียงอย่างเดียว แต่ยังได้ตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อความถูกต้อง ครบถ้วน คลี่คลายทุกประเด็นสงสัย และมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมในอีกหลายส่วน ซึ่งปัจจุบันมีพยานมากกว่า 100 ปาก และมีการออกหมายจับเพิ่มเติมนอกเหนือจากสำนวนแรก ดังนั้นจึงยืนยันว่า จะดำเนินการสอบสวนต่อเนื่อง ขอให้ทุกคนมั่นใจในการทำงาน
นายชูวิทย์ เปิดเผยหลังการแถลงข่าวอีกว่า ที่ออกมาเรียกร้องในครั้งนี้ อยากเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีออกมาเคลื่อนไหว เพราะคดีนี้เป็นคดีใหญ่ระดับประเทศ เป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คุมตัวฝากขัง "พ.ต.อ.หญิง" ภรรยาตู้ห่าว ข้อหาฟอกเงิน