วันนี้ (7 ม.ค.2566) เพจเฟซบุ๊กตำรวจทางหลวง ระบุว่า จากกรณีนางสิริกร ได้ไปลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองลพบุรี หลังได้รับหนังสือเรียกให้ชำระค่าธรรมเนียมผ่านทางพร้อมค่าปรับ กรณีใช้รถยนต์วิ่งผ่านช่อง M-Flow โดยไม่ชำระค่าผ่านทางจากกรมทางหลวง
โดยรถของนางสิริกรเป็นรถยี่ห้อ รุ่น และหมายเลขทะเบียนเดียวกัน แต่คนละสี ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามผู้กระทำความผิดตัวจริงมาดำเนินการตามกฎหมาย
กระทั่งเมื่อวานนี้(6 ม.ค.) เวลาประมาณ 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง สืบทราบเส้นทางการใช้รถคันดังกล่าวได้ จึงได้เฝ้าติดตามและพบว่าคนขับมีพฤติการณ์เปลี่ยนป้ายทะเบียนเป็นป้าย กฉ xxxx ลพบุรี ที่บริเวณถนนรังสิต-นครนายก ก่อนขึ้นด่านถนนกาญจนาภิเษก วงแหวนตะวันออก
จึงได้ทำการติดตาม และเมื่อรถคันดังกล่าววิ่งผ่านช่อง M-Flow บริเวณ วงแหวนตะวันออกมุ่งหน้าบางนา เขตสะพานสูง กทม.จึงได้เข้าสกัดจับและจับกุมตัว น.ส.เนาวรัตน์ ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว
จากการสอบปากคำเบื้องต้น น.ส.เนาวรัตน์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า ได้ป้ายทะเบียนดังกล่าวมาจากบุคคลอื่น และจะใช้เปลี่ยนก่อนขึ้น ทางด่วน เนื่องจากทราบข้อมูลจากคนรู้จักว่า สามารถวิ่งผ่าน M-Flow ได้ฟรี ไม่ต้องเสียค่าผ่านทาง หลังจากกลับบ้าน ก็จะเปลียนกลับเป็นป้ายทะเบียนเดิม พร้อมขอโทษที่ทำให้ผู้เสียหายเดือดร้อน
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาให้ น.ส.เนาวรัตน์ ทราบว่า “ปลอมและใช้เอกสารราชปลอม, หลีกเสี่ยงไม่ชำระค่าธรรมเนียมผ่านทาง, ฝ่าฝืนป้ายจราจร เครื่องหมายจราจร บนทางหลวง, ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่, ไม่ชำระภาษีประจำปีตามที่กฎหมายกำหนด” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางชัน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ระบบการแจ้งเตือนรถสวมทะเบียน หรือรถผิดกฎหมายที่ผ่านช่อง M-Flow อยู่ระหว่างกรมทางหลวงทดสอบและพัฒนาระบบ โดยจะได้มีการประสานข้อมูลกับตำรวจทางหลวงในเรื่องฐานข้อมูลรถผิดกฎหมาย ป้ายทะเบียนเฝ้าระวัง ซึ่งจะช่วยในการตรวจสอบรถที่ผิดกฎหมายได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต