ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

กพท.ปรับมาตรการเข้าไทย ยกเลิกโชว์ผลวัคซีน เริ่ม 10 ม.ค.นี้

เศรษฐกิจ
10 ม.ค. 66
19:04
8,014
Logo Thai PBS
กพท.ปรับมาตรการเข้าไทย ยกเลิกโชว์ผลวัคซีน เริ่ม 10 ม.ค.นี้
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กพท.ปรับมาตรการเข้าประเทศไทย ยกเลิกตรวจวัคซีนขั้นต่ำ บินกลับประเทศที่ต้องมีผลตรวจ RT-PCR เป็นลบ ต้องทำประกันสุขภาพ ไม่ห้ามขึ้นเครื่อง แต่สุ่มตรวจขาเข้า ไม่พบต้องทำประกันก่อนเข้าเมือง เริ่ม 10 ม.ค.นี้

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ออกประกาศผู้ทำการในอากาศ (NOTAM) ฉบับล่าสุดวันนี้ (10 ม.ค.2566) เพื่อแจ้งสายการบินและภาคการบินที่เกี่ยวข้องทั่วโลกทราบมาตรการด้านสาธารณสุขของประเทศไทยในการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ตามที่มีการปรับปรุงล่าสุดภายหลังได้ข้อสรุปจากคณะกรรมการวิชาการด้านการแพทย์และสาธารณสุขภายใต้ พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ซึ่งประเมินสถานการณ์และกำหนดมาตรการควบคุมป้องกันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่เกิดผลกระทบด้านการท่องเที่ยว หรือเกิดอุปสรรคแก่ผู้เดินทางเข้าประเทศเกินความจำเป็น เนื่องจากปัจจุบันมีปัจจัยบวกหลายด้าน โดยเฉพาะการรับวัคซีนจำนวนมากทั้งคนไทยและต่างชาติทั่วโลก อีกทั้งไม่พบว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นต้นเหตุของการระบาดของโรค COVID-19

สรุปสาระสำคัญของประกาศฉบับล่าสุด ซึ่งเป็นฉบับที่ 3 ในเรื่องดังกล่าวเปรียบเทียบกับฉบับก่อนหน้า ได้แก่ การยกเลิกข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการรับวัคซีนก่อนเดินทางเข้าประเทศไทยทั้งหมด ซึ่งจะทำให้สายการบินไม่ต้องตรวจสอบผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่อง รวมทั้งจะไม่มีการสุ่มตรวจเมื่อเดินทางมาถึงอีก ซึ่งเป็นไปตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงข่าวภายหลังการต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางถึงประเทศไทยเที่ยวแรกหลังจากจีนเปิดประเทศ พร้อมด้วยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา

ส่วนประเด็นเรื่องการประกันสุขภาพสำหรับผู้โดยสารเข้าประเทศที่ต้องเดินทางกลับไปยังประเทศที่มีข้อกำหนดให้ต้องมีผลตรวจ RT-PCR เป็นลบ (ไม่ติดเชื้อ) ได้พิจารณาปรับลดมาตรการให้อ่อนตัวลงในระยะนี้ โดยยังคงเน้นให้ผู้เดินทางเข้าประเทศกลุ่มดังกล่าวต้องมีประกันสุขภาพในวงเงินไม่น้อยกว่า 10,000 เหรียญสหรัฐ เพื่อให้ครอบคลุมการรักษาโรค COVID-19 ในกรณีติดเชื้อและบวกเพิ่มอีก 7 วัน ซึ่งวงเงินนี้เป็นวงเงินต่ำสุดที่เคยใช้มาก่อนหน้านี้และพิจารณาแล้วว่าครอบคลุมเพียงพอ

อย่างไรก็ตาม ในระยะนี้การกำหนดให้ผู้โดยสารกลุ่มนี้ต้องมีประกันสุขภาพเพื่อประโยชน์ของผู้โดยสารเองและไม่เป็นภาระแก่รัฐบาล จะยังไม่ถูกนำมาเป็นเงื่อนไขใด ๆ ในการปฏิเสธการขึ้นเครื่อง ณ สนามบินต้นทาง แต่เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศที่ท่าอากาศยานจะสุ่มตรวจเอกสารรับรองประกันสุขภาพของผู้โดยสารจากประเทศดังกล่าว หากพบว่าไม่มีประกันสุขภาพ ผู้โดยสารนั้นจะต้องซื้อประกันสุขภาพก่อนเข้าเมือง

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังคงติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และอาจยกระดับมาตรการใด ๆ เพิ่มขึ้นตามความเหมาะสม ซึ่งสายการบินจะต้องปรับแนวทางดำเนินการเพื่อให้การนำผู้โดยสารเข้าประเทศเป็นไปตามระเบียบหรือข้อกำหนดที่ประกาศขึ้นภายหลัง

สำหรับรายละเอียดเนื้อหาตามประกาศใน NOTAM ฉบับดังกล่าวมีเนื้อหาเป็นภาษาไทย ดังนี้ NOTAM ฉบับที่ A0071/23 กระทรวงสาธารณสุขปรับมาตรการในการเข้าประเทศไทยสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ ดังนี้
1.ยกเลิกข้อกำหนดการรับวัคซีนก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย
2.ผู้โดยสารที่มาจากประเทศที่กำหนดผลตรวจ RT-PCR TEST จะต้องมีประกันสุขภาพวงเงินไม่น้อยกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ ครอบคลุมการรักษาโควิดตลอดช่วงระยะเวลาเดินทางในประเทศไทยและบวกเพิ่มอีก 7 วัน
2.1 สำหรับผู้มาประกอบภารกิจ รวมถึงลูกเรือ นักเรียน อาจจะใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงานเจ้าภาพหรือเอกสารแสดงถึงการมีประกันรูปแบบอื่นรับรองแทน
2.2 ผู้โดยสารที่ไม่มีประกันสุขภาพจะไม่เป็นเหตุของการถูกปฏิเสธการขึ้นเครื่อง
2.3 เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ จะสุ่มตรวจเอกสารรับรองประกันสุขภาพของผู้โดยสารจากประเทศดังกล่าว หากพบว่าไม่มีประกันสุขภาพ ผู้โดยสารนั้นจะต้องซื้อประกันสุขภาพก่อนเข้าเมือง
2.4 หากมีระเบียบหรือข้อกำหนดอื่นใดจากกระทรวงสาธารณสุข ให้สายการบินดำเนินการตามระเบียบข้อกำหนดนั้น
3.ผู้โดยสารที่ถือหนังสือเดินทางไทย และผู้โดยสารที่เปลี่ยนเครื่องหรือต่อเครื่องได้รับการยกเว้นจากการตรวจสอบเอกสารประกันสุขภาพ
4.สายการบินต้องยึดตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องและปฏิบัติตามคู่มือแนวทางตามความเหมาะสม เช่น ขอให้ผู้โดยสารสวมใส่หน้ากากตลอดการเดินทาง ยกเว้นช่วงรับประทานอาหาร หรือในภาวะฉุกเฉิน
5.ผู้โดยสารที่มีอาการของโรค COVID-19 ระหว่างการเดินทาง จะได้รับการแนะนำให้ทำการตรวจการติดเชื้อเมื่อเดินทางมาถึงจุดหมาย
6.หากมีคำถาม ข้อสงสัย ติดต่อกระทรวงสาธารณสุขเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์ https://shorturl-ddc.moph.go.th/FeCG0

ข้อปฏิบัติดังกล่าวเริ่มใช้วันที่ 10 ม.ค.2566 เวลา 08.00 น. ถึงวันที่ 31 ม.ค.2566 เวลา 23.59 น.

นอกจากนั้น CAAT ยังได้ออกประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง แจ้งมาตรการทางสาธารณสุขในการเดินทางเข้าประเทศไทย เพื่อแจ้งให้สาธารณะและผู้เกี่ยวข้องในประเทศไทยได้ทราบอย่างเป็นทางการอีกทางหนึ่งด้วย ( รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.caat.or.th/th/archives/70601)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง