วันนี้ (13 ม.ค.2566) ตลอดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่บริเวณหน้าสนามมีดินห์ สเตเดียม ในกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ถือเป็นบรรยากาศที่ค่อนข้างคึกคัก โดยเฉพาะการแย่งกันจำหน่ายตั๋วเข้าชมเกมอาเซียนคัพ ระหว่าง เวียดนาม แชมป์ 2 สมัย พบกับ ทีมชาติไทย แชมป์ 6 สมัย ในช่วงค่ำวันนี้ เวลา 19.30 น.
ส่วนการฝึกซ้อมล่าสุดของทีมชาติไทย โค้ชมาโน โพลกิง เน้นให้ลูกทีมทำความคุ้นชินกับพื้นสนามที่มีดินห์ ขณะที่ ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าคนสำคัญยังคงต้องแยกซ้อมเดี่ยว เพื่อฟื้นฟูให้ฟิตสมบูรณ์ทันลงเกมนี้
คีย์แมนของทีมชาติไทย คือ ธีรศิลป์ หลังยิงไปแล้ว 6 ประตู นำดาวซัลโว และ 25 ประตู นำดาวซัลโวตลอดกาลอาเซียนคัพ ด้วยความเฉียบคม และธีรศิลป์ยังคงเป็นความหวังในการยิงประตูเวียดนาม
ส่วนคีย์แมนทำประตูของเวียดนาม อยู่ที่ เหงียน เทียน ลินห์ กองหน้าวัย 25 ปี ที่ยิงไปแล้ว 5 ประตู ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ , ร่างกายแข็งแกร่ง และ เล่นลูกกลางอากาศดี นี่คือคนที่กองหลังทีมชาติไทยจะประมาทไม่ได้
ส่วนจอมทัพทีมชาติไทย หนีไม่พ้น ธีราทร บุญมาทัน ที่มีสถิติการเล่นยอดเยี่ยม หลังทำไป 4 แอสซิสต์ ซึ่งกัปตันอุ้มถือเป็นหัวใจสำคัญของทีมชุดนี้ ทั้งเกมรุก และ เกมรับ รวมถึงสิ่งสำคัญคือการกระตุ้น และ ควบคุมสมาธิของลูกทีมให้อยู่ในเกมตลอด 90 นาที
ฝั่งเวียดนาม อยู่ที่ โด ฮุง ดุง กัปตันทีมวัย 29 ปี ที่ทำไปแล้ว 1 ประตู กับ 3 แอสซิลต์ ซึ่งจุดเด่นของกองกลางจากฮานอยคนนี้คือทักษะที่ยอดเยี่ยม และการเปลี่ยนจากจังหวะรับเป็นรุกได้อย่างเนียนตา
ไทย-เวียดนามอีกเกมหนึ่งที่สำคัญ
มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม "ช้างศึก" ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย กล่าวถึง ช้างศึกไทยที่ไปเยือนเจอกับเวียดนามเย็นวันนี้ ว่าเป็นอีกเกมหนึ่งที่สำคัญมากๆ ยอมรับว่าตื่นเต้น แม้ว่าจะเพิ่งเจอกันในรอบรองชนะเลิศเมื่อปีก่อน
แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกันเพราะนี่คือนัดชิงชนะเลิศ ที่เดิมพันมันสูงกว่าเดิมที่ทั้งสองทีมแย่งชิงความเป็นหนึ่งในอาเซียนตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นนี้คือเกมนัดชิงในฝันและยังเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี ที่ได้กลับมาเจอกันด้วย
โดยเวียดนาม มีอันดับโลกที่สูงกว่า, ฟูลทีม และเป็นทีมที่เล่นในบ้านได้แข็งแกร่งมาก รวมถึง ยังไม่เสียประตูให้ใครแน่นอนว่าจะเป็นเกมยากที่สุด แต่ก็พร้อมสู้เต็มที่เพื่อศักดิ์ศรีในฐานะแชมป์เก่า และ เพื่อแฟนบอลชาวไทยซึ่งเชื่อว่าจะเป็นเกมที่สนุก สมการรอคอย และ มีมิตรภาพที่ดีหลังจบเกม และยืนยันว่าทัพนักกีฬาไทยจะพยายามทำให้ดีที่สุดท่ามกลางแฟนบอล 40,000 คนที่เวียดนาม เพื่อเก็บผลการแข่งขันที่ดีก่อนกลับไปเล่นในบ้านนัดที่สอง
ทั้งนี้ช้างศึกและ เวียดนาม เคยพบกันในรอบชิงชนะเลิศ มาแล้ว 1 ครั้งในปี 2008 โดยขณะนั้นเวียดนาม เป็นฝ่ายเบียดเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์รวม 3-2 ก่อนเตรียมพบกันอีกครั้ง ในรอบชิงชนะเลิศ ครั้งแรกในรอบ15 ปี
สำหรับ ทีมชาติไทย เตรียมบุกเยือน เวียดนามในศึกชิงแชมป์อาเซียน 2022 รอบชิงชนะเลิศนัดแรก วันที่ 13 ม.ค.2566 ที่สนามมีดินห์ สเตเดียม เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 9 Mcot HD30 ก่อนกลับมาเล่นในบ้านนัดที่ 2 วันที่ 16 ม.ค.2566 ที่สนามธรรมศาสตร์ รังสิต
ขณะที่การจำหน่ายตั๋วในนัดดังกล่าวได้รับการตอบรับจากแฟนบอลอย่างล้นหลาม โดยล่าสุด ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ผู้จัดจำหน่ายตั๋ว ได้แจ้งว่าตั๋วเข้าชมเกมตัดสินแชมป์ ระหว่างทีมชาติไทยกับเวียดนามในนัดที่ 2ที่สนาม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิตได้หมดเกลี้ยงเรียบร้อยแล้วทุกที่นั่ง