วันนี้ (15 ม.ค.2566) ที่บริเวณสถานีกลางบางซื่อ หรือ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ บริเวณประตู 3 เจ้าหน้าที่ได้เตรียมพื้นที่ไว้สำหรับการปรับจูนแท็กซี่ให้เป็นราคาใหม่ ในวันที่ 16 ม.ค.นี้ โดยจัดไว้สำหรับการปรับจูนมิเตอร์ใหม่ของ 4 บริษัท
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ผู้ขับรถแท็กซี่ต้องนำมิเตอร์ไปปรับจูนค่าโดยสารที่บริษัทผู้จำหน่ายมิเตอร์ให้ถูกต้องตามประกาศฯ ก่อนจึงจะคิดค่าโดยสารในอัตราใหม่ได้ โดยสามารถปรับจูนมิเตอร์ใหม่ได้ ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. - 28 ก.พ. เฉพาะวันจันทร์ - วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น. ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้ร่วมมือกับ 4 บริษัทเอกชนนำเจ้าหน้าที่มาให้บริการปรับจูน และเจ้าหน้าที่ตรวจรับรองความถูกต้องและทำการซีลตะกั่วที่มิเตอร์ก่อนออกให้บริการประชาชน คาดว่า จะสามารถรองรับแท็กซี่ได้วันละ 1,600-1,800 คัน
นอกจาก 4 ยี่ห้อดังกล่าว หลังจากนำมิเตอร์ปรับจูนที่บริษัทผู้จำหน่ายมิเตอร์แล้ว สามารถนำมิเตอร์มารับรองความถูกต้อง ณ สถานีกลางบางซื่อได้เช่นกัน และยังสามารถนำรถมาตรวจได้ที่ กรมการขนส่งทางบก คาดว่า จะสามารถรองรับแท็กซี่ที่จะมารับรองได้วันละ 500 - 600 คัน
ส่วนกรณีที่มีกลุ่มสมาพันธ์แรงงานแท็กซี่ไทยไปร้องเรียนที่รัฐสภาว่า ขอให้ตรวจสอบค่าธรรมเนียมการปรับอัตรามิเตอร์ใหม่ เนื่องจากมองว่าราคาแพงเกินความเป็นจริง ตามประกาศกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ที่กำหนดให้แท็กซี่นำรถเข้าไปปรับอัตรามิเตอร์ใหม่ เริ่ม 16 ม.ค.2566 ค่าธรรมเนียมคันละ 300 บาท
นายเสกสม ระบุว่า การเก็บค่าธรรมเนียมเป็นบริการของบริษัทเอกชน เพราะต้องเปลี่ยนไมโครชิพที่อยู่ในมิเตอร์ โดยจะเสียค่าใช้จ่ายคันละประมาณ 300 - 350 บาท
ส่วนราคาค่าโดยสารที่ปรับขึ้นใหม่นั้น ยืนยันว่า ผ่านการศึกษาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยหากเป็นค่าโดยสารใหม่จะปรับขึ้นจากเดิมอีกประมาณร้อยละ 6 แต่เน้นย้ำให้ผู้ขับรถแท็กซี่ต้องพัฒนาคุณภาพในการให้บริการประชาชน ไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร หรือไม่ฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้ใช้บริการในการเก็บค่าโดยสารเกินจากมิเตอร์ รวมถึงให้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์และกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกอย่างเคร่งครัด