ไทยมีกฎหมาย เพื่อแยกระหว่างแชร์ลูกโซ่กับขายตรงออกจากกัน มี สคบ.กำกับดูแล ซึ่งตามกฎหมายขายตรง ระบุไว้ว่า ถ้าจะทำธุรกิจขายตรง ต้องขออนุญาต และนำสินค้าไปให้ สคบ.ตรวจสอบว่ามีสารต้องห้ามหรือไม่ ซึ่งประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ระบุว่า พรีมายา เคยถูกดำเนินคดี กรณีพบสารไซบรูทามีนในผลิตภัณฑ์ จึงขออนุญาตขายตรงไม่ได้
สามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ระบุว่า ได้ถาม สคบ.ไป ก่อนจะได้รับคำตอบมาว่า บริษัท พรีมายา ขอจดทะเบียนตลาดแบบตรง คือขายแบบออนไลน์ ชื่อ ทเวนตี้ โฮลดิ้ง จำกัด ไม่มีชื่อผู้ต้องหาที่ถูกจับครั้งนี้ เป็นกรรมการเลย แปลว่า พรีมายา ไม่ได้ขออนุญาต ในชื่อบริษัท พรีมายา แต่ไปขอชื่ออื่น “เคยมาขอจดทะเบียนขายตรง แต่ สคบ. แจ้งว่า ไม่เข้าเกณฑ์ จึงไม่ยื่นจด แปลว่า จดไม่ได้ “ผมมั่นใจว่า ผิดขายตรง 100%”
ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ระบุอีกว่า สคบ. สามารถเรียกผู้กระทำผิดมาปรับ และร้องทุกข์กล่าวโทษ เพื่อเอาผิดกฎหมายขายตรง โดยไม่ต้องมีผู้เสียหาย หรือลูกค้าไปแจ้งความ และถ้าไม่ทำ อาจเข้าข่ายผิด มาตรา 157 ละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
อย่างไรก็ตาม หาก สคบ.ตรวจสอบแล้วพบว่า “ไม่ผิดกฎหมายขายตรง” ก็จะต้องไปดูกฎหมายแชร์ลูกโซ่ ถ้าพบว่ามีการ “การันตีผลตอบแทน” จะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ทันที เช่น ถ้าบอกว่า ลงทุน 10,000 บาท จะได้ค่าตอบแทน 200,000 บาท ทุกเดือน อันนี้เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ ไม่ว่าจะมีสินค้าจริงหรือไม่ก็ตาม แชร์ลูกโซ่ จะเน้นการันตีผลตอบแทน ไม่เน้นขายสินค้า