วันนี้ (21 ม.ค. 2566) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่ทางการประเทศจีนจะดำเนินการนำร่องให้ชาวจีนเดินทางออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศแบบหมู่คณะ หรือ กรุ๊ปทัวร์ ได้ใน 20 ประเทศซึ่งรวมถึงประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.2566 เป็นต้นไป
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ได้ติดตามรายละเอียดทางนโยบายของทางการจีนอย่างใกล้ชิด และมีความมั่นใจว่าข้อกำหนดต่างๆ ที่มีการดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปนี้ จะส่งผลดีต่อธุรกิจการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทย และสามารถควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ให้อยู่ในขอบเขตที่จำกัดได้
“นายอนุทิน ได้รับทราบแนวนโยบายและขอบเขตการดำเนินการนำร่องตามที่สถานเอกอัครราชทูตจีนเปิดเผยล่าสุดซึ่งได้แสดงให้เห็นว่าประเทศจีนได้ดำเนินมาตรการต่างๆ อย่างรัดกุม มีการแนะนำประชาชนของตนเองที่จะเดินทางออกไปเที่ยวต่างประเทศ ปฏิบัติตามข้อกำหนดของประเทศปลายทาง บริษัทท่องเที่ยวมีการดูแลคัดกรองกรุ๊ปทัวร์และมีระบบการรายงานที่ชัดเจน
โดยรองนายกรัฐมนตรีได้กำชับกระทรวงในกำกับที่เกี่ยวข้องได้แก่กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคมและกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ติดตามรายละเอียดของข้อกำหนด และเตรียมการในทุกด้านให้พร้อมสำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้น” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 ม.ค. สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยได้เผยแพร่ประกาศสำนักงานประจำกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ระบุถึงการนำร่องที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.2566 เป็นต้นไป โดยการให้บริษัทนำเที่ยวและบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ทั่วประเทศจีนในการดำเนินกิจการจัดการท่องเที่ยวแบบหมู่คณะรวมถึงธุรกิจ ตั๋วเครื่องบิน + โรงแรม
สำหรับชาวจีนไปยัง 20 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย กัมพูชา มัลดีฟส์ ศรีลังกาฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ ลาว สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อียิปต์ เคนยา แอฟริกาใต้ รัสเซีย สวิตเซอร์แลนด์ ฮังการีนิวซีแลนด์ ฟิจิ คิวบา และอาร์เจนตินา
ทั้งนี้ ตามประกาศได้มีข้อกำหนดต่างๆ ที่รัฐบาลท้องถิ่นในจีน บริษัทนำเที่ยว ตลอดจนชาวจีนที่จะเดินทางออกไปท่องเที่ยวต้องดำเนินการและปฏิบัติ อาทิ บริษัทนำเที่ยวดำเนินการตามหลักการของประเทศที่จะไป รัฐบาลท้องถิ่นมีการจัดระเบียบและดำเนินการเพื่อปกป้องความปลอดภัย สิทธิประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของนักท่องเที่ยว
แนะนำบริษัทนำเที่ยวให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดการป้องกันการแพร่ระบาดทั้งของประเทศจีนและประเทศปลายทางอย่างเคร่งครัด และแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวให้เฝ้าระวังตรวจหาเชื้อก่อนการเดินทาง ใส่ใจกับความปลอดภัยและการป้องกันตนเองในระหว่างการเดินทาง ปฏิบัติตามกฎระเบียบการป้องกันการแพร่ระบาด และปฏิบัติตามข้อกำหนดการป้องกันการแพร่ระบาดต่างๆ
นอกจากนี้ ข้อกำหนดยังให้รัฐบาลท้องถิ่นในจีนมีการกำหนดมาตรฐานกิจกรรมท่องเที่ยวและให้บริษัทนำเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ดำเนินตามอย่างเคร่งครัด จัดทำสัญญาการท่องเที่ยวที่ถูกกฎหมาย มีระบบการจัดการข้อพิพาทที่เหมาะสมและทันท่วงที ปรับขนาดของกลุ่มคณะให้เหมาะสม
เตือนนักท่องเที่ยวให้เพิ่มความตระหนักด้านความปลอดภัย ซื้อประกันสำหรับอุบัติเหตุส่วนบุคคล รวมถึงให้บริษัทนำเที่ยวใช้ระบบ "หนึ่งคณะหนึ่งรายงาน" มีการรายงานข้อมูลการเดินทางขาเข้าและออกของหมู่คณะบนแพลตฟอร์มที่รวดเร็ว มีการตรวจสอบธุรกิจผิดกฎหมาย เช่น ทัวร์ราคาถูกที่ไม่สมเหตุสมผล การจัดนักท่องเที่ยวให้เยี่ยมชมหรือมีส่วนร่วมในโครงการหรือกิจกรรมที่ละเมิดกฎหมาย ข้อบังคับ และคุณธรรมทางสังคมของประเทศจีน