สถานการณ์ที่ชาวบ้านหนองหญ้าไซ ต.นาดินดำ อ.เมือง จ.เลย เผชิญเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 4 ก.พ.2566 เป็นภาพเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้ไร่อ้อยจนท้องฟ้าในยามค่ำคืนเปลี่ยนเป็นสีส้มแดง และมีเศษเถ้าฝุ่นใบอ้อย หรือ หิมะดำ ลอยคละคลุ้งไปทั่วท้องฟ้า สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง เพราะเกรงว่าไฟจะลุกลามเข้ามาไหม้บ้านเรือน
ขณะที่ในช่วงเช้าตามพื้นบ้านในเขตเทศบาลเมืองเลย ก็มีเศษหิมะดำร่วงลงมาที่พื้นเป็นจำนวนมาก ทำให้ชาวบ้านต้องปัดกวาดกันทุกวัน วันละหลายรอบ ซึ่งผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ อ.เมือง จ.เลย มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 อยู่ที่ 89 มคก./ลบ.ม. อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ส่วนที่ อ.เซกา จ.บึงกาฬ เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2566 มีฝนตกลงมาโปรยปราย ชาวบ้านเรียกฝนแบบนี้ว่า "ฝนตกฮำดอกบักม่วง" ช่วยสร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นดิน และช่วยลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ด้วย
อย่างไรก็ตามยังคงมีหมอกควันปกคลุมอยู่ทุกพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณริมแม่น้ำโขง หน้าเทศบาลเมืองบึงกาฬ ทำให้ชาวบ้านที่สัญจรไป-มา ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันตัวเองจากฝุ่นละออง
เปิดปัจจัยทำฝุ่นเพิ่ม-ปัญหาหมอกควันข้ามแดน
ที่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เมื่อวานนี้ (4 ก.พ.2566) หมอกควันลอยปกคลุมไปทั่วเมือง ซึ่งจากการสำรวจภาพทางอากาศ พบว่า มีจุด Hot Spot ในฝั่ง จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา และลมได้พัดเอาหมอกควันลอยเข้ามาในพื้นที่
นางจิรัชญา ตะเคียนงาม แม่ค้าขายผักตลาดสดคลองใหญ่ บอกว่าฝุ่นพิษทำให้รู้สึกแสบ และแน่นจมูกหายใจไม่สะดวก ต้องแก้ปัญหาด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัย ทำให้มีความรู้สึกไม่สบายเหมือนในยามปกติ
ขณะที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ตราด เปิดเผยว่าหลังมีฝนตกลงมาบ้างเล็กน้อย ทำให้ฝุ่นพิษลดลง แต่ไม่ทุกพื้นที่ ดังนั้นในช่วงนี้ขอให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันฝุ่น PM 2.5 ในขณะเดียวกันก็จะให้ชุดควบคุมไฟป่าเร่งออกสำรวจจุดไฟไหม้ในป่าตามแนวชายแดนต่อไป