ความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในตุรกีและซีเรีย ใกล้ครบ 2 สัปดาห์ล่าสุดการค้นหาและกู้ภัยส่วนใหญ่ยกเลิกไปแล้ว ยกเว้น 2 เมืองที่ได้รับความเสียหายรุนแรงที่สุด การค้นหายังคงมีอยู่
แน่นอนว่าเมื่อภารกิจดังกล่าวสิ้นสุดลง ทีมกู้ภัยจากนานาชาติก็เริ่มทยอยถอนตัวกลับประเทศ ซึ่งบรรยากาศที่สนามบินเต็มไปด้วยความอบอุ่น เมื่อคนที่สนามบินพากันปรบมือเพื่อแสดงความขอบคุณทีมกู้ภัยเหล่านี้
บรรยากาศที่สนามบินอดานาในประเทศตุรกี ประชาชนที่อยู่ในสนามบินพากันปรบมือเพื่อแสดงความขอบคุณทีมกู้ภัยจากนานาชาติที่ทยอยเดินทางกลับประเทศ ที่เห็นอยู่ในคลิปนี้ ประกอบไปด้วยทีมกู้ภัยจากเกาหลีใต้ ฝรั่งเศส และอินเดีย
ในขณะที่หัวหน้าสำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินและภัยพิบัติของตุรกี ประกาศยุติภารกิจค้นหาและกู้ภัยแล้ว หลังจากไม่พบผู้รอดชีวิตเพิ่มในช่วง 24 ชม.ที่ผ่านมา
ยกเว้นในเมืองคาห์รามานมารัส และฮาทัย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายรุนแรงที่สุด การค้นหายังคงดำเนินต่อไป โดยมีซากอาคารอีกประมาณ 40 หลังที่รอการสำรวจหาผู้รอดชีวิต แม้ว่าโอกาสจะริบหรี่เต็มที
ส่วนผู้รอดชีวิตรายล่าสุดที่พบ คือเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น เป็นหญิงและชายที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารนาน 296 ชั่วโมง หรือนานกว่า 12 วัน ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งในซีเรียและตุรกีรวมกันมีมากกว่า 46,000 คน
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้แทนจากหลายประเทศเดินทางไปยังพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวในตุรกี อย่างแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เพื่อสำรวจพื้นที่ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหวในตุรกี ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของตุรกี ซึ่งการเยือนของบลิงเคนในครั้งนี้ เพื่อหารือเรื่องที่สหรัฐอเมริกาจะให้ความช่วยเหลือตุรกีในการฟื้นฟูประเทศ
หลังจากนั้นบลิงเคนได้เดินทางไปที่ศูนย์กระจายความช่วยเหลือและพบกับทีมกู้ภัยของสหรัฐฯ และทหารอเมริกันที่เข้าร่วมในภารกิจค้นหาและช่วยเหลือ พร้อมประกาศว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะให้ความช่วยเหลืออีก 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3,300 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนในตุรกี ซึ่งก่อนหน้านี้สหรัฐฯ ได้ให้ความช่วยเหลือซีเรียไปแล้ว 85 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2,800 ล้านบาท
ส่วนรัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาของอังกฤษเดินทางเยือนตุรกีเช่นกัน และได้เดินทางไปเยี่ยมชมโรงพยาบาลสนามของหน่วยแพทย์ทหารอังกฤษสร้างขึ้น โดยมีเจ้าหน้าที่ร่วมปฏิบัติงาน 150 นาย โดยกล่าวชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานได้อย่างยอดเยี่ยม และมีรายงานว่ามีผู้ประสบภัยเข้าใช้บริการแล้วประมาณ 1,700 คน
ขณะที่ ในฝั่งของซีเรียกันบ้าง ที่เมืองอเลปโป พนักงานของร้านอาหารและอาสาสมัครช่วยกันทำอาหารและจัดใส่กล่อง เพื่อนำไปมอบให้ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่อาศัยอยู่ในโบสถ์ โดยวัตถุดิบในการปรุงอาหารทั้งหมด เป็นของทางร้านและได้รับบริจาคมาส่วนหนึ่ง
ส่วนที่เมืองอาซัซ พนักงานของโรงงานผลิตเต็นท์ เร่งมือทำงานเพื่อผลิตเต็นท์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เนื่องจากมีคำสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทั้งจากผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากแผ่นดินไหวรวมถึงองค์กรพัฒนาเอกชน
แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในตอนนี้คือการขาดแคลนวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นโครงเหล็ก และผ้าใบ แม้ว่าจะเร่งมืออย่างเต็มที่ แต่ก็สามารถผลิตเต็นท์ได้เพียงวันละ 50 หลัง ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ราคาขายของเต็นท์ที่ผลิตในซีเรียอยู่ระหว่าง 5,000 - 8,250 บ. แม้ว่าคุณภาพของเต็นท์ที่นี่ จะด้อยกว่าเต็นท์ที่องค์กรด้านมนุษยธรรมสั่งซื้อแต่ก็ถือเป็นทางเลือกเดียวที่จะช่วยแก้ปัญหาเต็นท์ขาดแคลน
ในขณะที่องค์การแพทย์ไร้พรมแดนระบุว่า พื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ซึ่งเป็นพื้นที่ของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม เพื่อให้สอดรับความวิกฤตด้านมนุษยธรรมในเวลานี้
ในขณะที่สมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก มีพระราชดำรัสต่อประชาชนที่มาเข้าเฝ้า ณ จตุรัสเซนต์ ปีเตอร์ นครรัฐวาติกัน ขอให้นึกถึงผู้ประสบภัยทั้งในตุรกีและซีเรียรวมถึงชาวนิวซีแลนด์ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยธรรมชาติครั้งรุนแรง และชาวยูเครนที่เผชิญกับสงคราม ขอให้ร่วมกันยื่นมือช่วยเหลือคนเหล่านั้นด้วยการบริจาคความช่วยเหลือ