ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร : “ยอมเป็นมาเฟีย ถ้าทำให้คนเป็นภัยคุกคามป่ากลัว”

ถ้ามองผมเป็นมาเฟีย เป็นดาบสองคมต้องมองด้านลบ ด้านบวก แต่ถ้ามองด้านลบ ก็ลบ แต่ถ้ามองแง่บวก คนที่เป็นภัยคุกคามตัดไม้ทำลายป่า ก็จะทำให้เบาบาง เพราะเขาคงจะกลัวผมมากขึ้น

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช บอกกับไทยพีบีเอสออนไลน์ ในวันเข้ามารับตำแหน่ง

ตั้งแต่ช่วงเช้าห้องทำงานชั้น 7 หัวกระไดไม่แห้ง พี่น้องผองเพื่อน และลูกน้องจากหลายจังหวัดต่างหอบช่อดอกไม้มา บ้างก็ถือดอกกุหลาบสีแดง ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามายินดีกับ “พี่อี่” ไม่มีซอง

ชัยวัฒน์ สวมชุดเครื่องแบบลายพรางภาคสนาม และออกมาต้อนรับพี่ๆ น้องด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม บอกกับเราว่า เลือกสวมชุดนี้ เพราะเป็นสัญลักษณ์ของผู้พิทักษ์ป่าบอกมาเลยเป็นชุดที่ภูมิใจที่สุด หลังจากทำงานลาดตระเวน
ภูมิใจชุดเครื่องแบบลายพราง

เป็นชุดที่เราภูมิใจ สื่อความหมายเราเป็นคนพื้นที่คนสนามคนเดินป่าและอยากสื่อสารถึงคุณลักษณะผู้พิทักษ์ป่า ใส่แล้วมีศักดิ์ศรีคุ้มค่ากับอุดมการณ์ ตอนนี้เรามีเกียรติศักดิ์ศรี

หากพูดถึงภาพลักษณ์ของความเป็นมาเฟียหรือไม่ หัวหน้าอี่ มองหน้า พร้อมกับอมยิ้ม

การมองทุกอย่างมีทั้งแง่บวกแง่ลบ และถ้ามองว่าผมเป็นมาเฟียคือคนที่มีอิทธิพล แต่ถ้าทำแล้วทำให้ภัยคุกคาม หรือคนที่เป็นศัตรูต่อป่าไม้และสัตว์ป่ากลัวผม ก็เป็นเรื่องดี

ชัยวัฒน์ บอกอีกว่า แต่สำหรับสายตาของข้าราชการด้วยกันที่อาจมี 2 กลุ่มคือกลุ่มที่อนุรักษ์ป่า และคนที่มาผลประโยชน์กับคนที่อนุรักษ์ป่า 2 กลุ่มนี้กลุ่มอนุรักษ์ป่า และคนที่อยากให้ป่าคงอยู่ คงมองตัวเองในแง่ดี

แต่คนที่เสียประโยชน์คงมองแง่ลบ เพราะมาแล้วอาจจะเสียประโยชน์แน่ๆ หรือจะเอาพรรคพวก เอาการเมืองมา คนมาขอแล้วต้องไปแบบนั้น ไม่ใช่ผม ผมไม่ทำแบบนี้ และผมจะอยู่ในศักดิ์ศรีและเกียรติของผม

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง  ทำงานวันแรก! "ชัยวัฒน์" สวมชุดเครื่องแบบลายพราง นั่ง ผอ.สำนักอุทยานฯ

ยอมเป็น “มาเฟีย”ถ้าทำให้กลุ่มเสียประโยชน์กลัว

วันนี้ผมได้เกียรติ และศักดิ์ศรีของผมคืนมา ชีวิตผ่านลุ่มๆ ดอนๆ ทั้งที่ไม่ได้ทำผิดอะไร แต่ถูกปู้ยี่ปู้ยำชีวิต และวันนี้กลับมาได้ ไม่ได้มาเป็นมาเฟีย แต่ต้องการป่า ต้องการสัตว์ป่าคืน เพิ่มพื้นที่ป่าจาก 31 เป็น 40% ถ้ามาแล้วมีอะไรเปลี่ยนแปลง และดีขึ้นนั่นคือตัวผม

ถ้ามองผมเป็นมาเฟีย เป็นดาบสองคมต้องมองด้านลบด้านบวก แต่ถ้ามองด้านลบ ก็ลบ แต่ถ้ามองแง่บวก คนที่เป็นภัยคุกคามตัดไม้ทำลายป่า ก็จะทำให้เบาบาง เพราะเขาคงจะกลัวผมมากขึ้น

ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ ยังระบุว่า การมานั่งตำแหน่งนี้พร้อมจะเป็นมือขวา และร่วมทำงานปราบปรามกับอธิบดีอรรถพล เจริญชันษา ซึ่งเป็นมือหนึ่งในงานปราบปราม ถ้าเข้าขากันได้ดี เชื่อว่าภายใน 1 ปี 19 เดือน ถ้ากำจัดคนกลุ่มนี้ออกไปได้บางส่วนจะช่วยให้อุดมการณ์ของคนพิทักษ์ป่ากลับคืนมา และเชื่อว่าคนที่มองมุมบวกก็มีเยอะ

สางมาตรา 64 คืนสิทธิทำกินชุมชนในเขตป่า

นายชัยวัฒน์ ย้ำว่า ขอให้เชื่อมั่นในตัวเองว่าจะยืนในคุณธรรมของข้าราชการ จะไม่ข่มเขงใคร และพร้อมให้โอกาสกับทุกคน โดยเฉพาะการตั้งใจมาทำมาตรา 64 เรื่องสิทธิการ ครอบครองสิทธิทำกินของประชาชน คนที่อยู่มาก่อน คนทำกินมาก่อนดั้งเดิม ไม่ต้องห่วงจะไม่กระทบ ในการประกาศและวางเกณฑ์จะเร่งกำหนดขั้นตอน เพื่อลดข้อกังวลกับชาวบ้าน เพราะถ้าตรงนี้ปลดล็อกได้ โครงการอื่นๆเช่น โครงการพระราชดำริ โครงการประปาและถนน หนทางจะพัฒนาต่อได้

ปัดอยู่ใต้เงาปีกบ้านใหญ่

นายชัยวัฒน์ ยังตอบคำถามเมื่อถูกถามว่าถูกโยงว่าอยู่ใต้ปีกบ้านใหญ่ ถึงกับอุทานว่า ใครๆ การเมือง ไม่อยู่ใต้นักการเมืองอยู่แล้ว พูดชัดเจน อย่าไปอ้างว่ามาจากใคร ที่ผ่านมาต่อสู้ด้วยศักดิ์ศรีของตัวเอง ที่ผ่านมามีคุณมนูญ และทนายความเท่านั้นที่ช่วยมายืนอยู่ตรงนี้

การเมืองไม่ได้ช่วยอะไรผม และผมก็ไม่เอื้อการเมือง ผมชนทุกนาที ถ้าป่าผมหาย ไปสุดที่ไหนก็แล้วแต่ ผมมีหน้าที่ปกป้องสัตว์ป่า และป่าไม้ ไม่ได้เข้าปีกซ้าย และปีกขวาของใครทั้งสิ้น

คนที่ช่วยผมกลับมารับราชการได้คือคุณมนูญ ทนายความ และเพื่อนๆพี่น้องวนศาสตร์กับเพื่อนป่าไม้ที่สนับสนุน

ผมกลับมาได้ไม่มีใครเลย ไม่มีการเมือง เรื่องนี้ปฏิเสธโดยสิ้นเชิง และผมจะต่อสู้ถ้าถ้าการเมืองมีผลกับป่าและมาอยู่เหนือ ผมไม่ยอม

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

"รัชฎา" โต้ยิบปมสินบนอ้างปมขัดแย้ง "ชัยวัฒน์"ศาลนัด 30 มี.ค.

"One Map" สางปมขัดแย้งอุทยานทับลาน

 ปลัดทส.ส่ง "ชัยวัฒน์" ผงาดคุมสำนักอุทยานแห่งชาติ