วันนี้ (11 มี.ค.2566) "หลี่ เฉียง" อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประจำเซี่ยงไฮ้ ลุกขึ้นโค้งคำนับและจับมือ "สี จิ้นผิง" ประธานาธิบดีจีน ท่ามกลางเสียงปรบมือดังกึกก้อง หลังจากคณะผู้แทนที่เข้าร่วมประชุมสภาประชาชนแห่งชาติในกรุงปักกิ่ง ลงมติ 2,936 เสียง รับรองให้ "หลี่ เฉียง" ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แทน "หลี่ เค่อเฉียง" นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ขณะที่มีผู้ลงมติคัดค้าน 3 คน และงดออกเสียง 8 คน
หลี่ เฉียง วัย 63 ปี ซึ่งก้าวขึ้นเป็นผู้นำเบอร์สอง รองจากผู้นำจีนในวันนี้ เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับสี โดยช่วงระหว่างปี 2004-2007 เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ในคณะทำงานของ "สี จิ้นผิง" ระหว่างที่ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประจำมณฑลเจ้อเจียง
ก่อนที่ในปี 2017 "หลี่ เฉียง" จะก้าวขึ้นกุมบังเหียนบริหารเซี่ยงไฮ้ ซึ่งรวมถึงการบังคับใช้มาตรการปิดเมืองเพื่อต่อสู้กับโควิด-19 เมื่อปีที่แล้ว จนตกเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนอาหารและยา
นักวิเคราะห์ มองว่า นายกรัฐมนตรีคนใหม่ อาจได้รับตำแหน่งนี้ เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับผู้นำจีน และถือเป็นนายกรัฐมนตรีจีนคนแรก ที่ไม่มีประสบการณ์การทำงานในรัฐบาลกลางมาก่อน
ทั้งนี้ หนึ่งในภารกิจสำคัญของหลี่ คือ การฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ หลังจากได้รับผลกระทบอย่างหนักจากนโยบายโควิดเป็นศูนย์ มานานร่วม 3 ปี