วิกฤตธนาคารสหรัฐฯ กระทบตลาดหุ้น ชาวอเมริกันแห่ถอนเงิน

วันนี้ (14 มี.ค.2566) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ลูกค้าของธนาคารซิลิคอน แวลลีย์ (Silicon Valley) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐอเมริกา เข้าแถวหน้าสาขาธนาคาร เพื่อรอถอนเงิน เนื่องจากธนาคารไม่เปิดให้ทำธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์ แต่จะจ่ายเงินเป็นแคชเชียร์เช็ค ผ่านหน้าเคาน์เตอร์เท่านั้น ทำให้สาขาของธนาคารซิลิคอน แวลลีย์ แทบทุกแห่ง มีลูกค้ามารอเข้าคิว บางคนมารอ ตั้งแต่ธนาคารยังไม่เปิด ขณะที่ บางคนนำเก้าอี้มานั่งรอเข้าคิวด้วย

เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความตื่นตระหนกของประชาชน หลังจากที่มีธนาคารถึง 3 แห่ง ในสหรัฐฯ ถูกปิด นับตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา นอกเหนือจากธนาคาร Silicon Valley แล้ว ยังมีธนาคาร Signature และธนาคาร Silvergate ซึ่งโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้สัญญาว่า จะทำในสิ่งที่จำเป็น เพื่อปกป้องระบบธนาคาร

ก่อนหน้านี้ ไบเดน ประกาศว่า รัฐบาลจะคุ้มครองเงินฝากทั้งหมดของลูกค้าธนาคาร Silicon Valley และ ธนาคาร Signature

ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายการเงิน จากมหาวิทยาลัยคอร์แนล ระบุ ปัญหาที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า จำเป็นต้องมีการออกกฎระเบียบ สำหรับธนาคารขนาดเล็กและขนาดกลาง เนื่องจากกฎระเบียบเดิม ที่เกิดจากการปฏิรูปในช่วงปี 2008-2009 จากวิกฤตเศรษฐกิจ ไม่สามารถใช้ตรวจสอบสถานะทางการเงิ นของธนาคารขนาดเล็กและขนาดกลางได้

ขณะที่ หลายฝ่ายมองว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องทบทวน เรื่องมาตรการขึ้นดอกเบี้ย เพื่อสกัดปัญหาเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดเงินทุนทั่วโลก โดยตลาดหลักทรัพย์ในเอเชีย วันนี้เปิดตลาดปรับตัวลดลงถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็นในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และฮ่องกง ในขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ของไทย ปิดตลาดภาคเช้า ปรับตัวลดลง 20 จุด 37 จุด อยู่ที่ 1,552.70 จุด