วันนี้ (15 มี.ค.2566) จากกรณีที่ตำรวจสันติบาลเกิดอาการคลุ้มคลั่งใช้ปืนยิงภายในบ้านพัก ย่านสายไหม ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าของวานนี้นั้น จนล่าสุดวันนี้เวลา 12.10 น. เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการยกระดับจู่โจมจนสามารถควบคุมตัวได้สำเร็จ
บางส่วนตั้งคำถามว่า จับคนๆ เดียว ทำให้ใช้เวลาถึง 27 ชั่วโมง ตำรวจยืนยันว่า ทำตามยุทธวิธี ตามหลักสูตรทุกขั้นตอน และเป็น 27 ชั่วโมง ที่อยู่ในเงื่อนไขซื้อเวลา เพื่อให้ผู้ก่อเหตุผ่อนคลาย และปลอดภัย
ตามยุทธวิธี จะเห็นว่า เจ้าหน้าที่ชุดเจรจา เข้าพื้นที่ตั้งแต่แรก เป็นเจ้าหน้าที่ ที่ผ่านฝึกด้านจิตวิทยา และการเจรจาเกิดขึ้นตั้งแรกหลังเกิดเหตุ
ส่วนเจ้าหน้าที่ชุดระงับเหตุ มีทั้งอรินทราช หนุมานกองปราบ และคอมมานโด ทยอยเข้าพื้นที่ตามลำดับ และยังไม่ได้ใช้ทุกหน่วย ชุดจู่โจมที่จับกุมตัวได้ คือชุดอรินทราช ที่เข้าไปชุดแรก ตั้งแต่เมื่อวาน
การเจรจาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชุดเจรจาประเมินได้ว่า การเจรจาไม่ได้ผล ผู้ก่อเหตุไม่ตอบรับ แต่เจ้าหน้าที่ยังพยายามพูดคุย ผ่านเครื่องขยายเสียง
แม้จะมีการยกระดับปฏิบัติการด้วยแก๊สน้ำตา แต่เมื่อถึงช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลเกี่ยวกับปูมหลัง และวิเคราะห์อาการของสารวัตร มาตลอดทั้งคืน
ทุกอย่างทำตามลำดับขั้นตอน ตามหลักสูตรการเจรจาต่อรอง ศึกษาภูมิหลัง เจรจา ต่อรอง รุก รับ และ รอ เสนอว่าอยากได้อะไรให้บอก ร้องเพลงที่ชอบ ใช้ภาษาถิ่น นำหัวหน้าเก่ามาคุย เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ
ภายในบ้านจะมีบุหรี่ สีขาวๆ ตกอยู่ตามพื้น นั่นคือสิ่งที่เจ้าหน้าที่ส่งให้ เพราะรู้ว่าผู้ก่อเหตุชอบ และน่าจะช่วยให้ผู้ก่อเหตุผ่อนคลาย
แต่ผู้ก่อเหตุมีอาการทางจิตเวช ความรู้สึกนึกคิด จึงยากต่อการคาดเดา ทำให้ตำรวจต้องยื้อเวลา เพื่อให้ผู้ก่อเหตุคลายกังวล
จุดเปลี่ยนคือ เมื่อเหตุการณ์ผ่านมา เกิน 24 ชั่วโมง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โทรศัพท์คุยด้วยตัวเอง และประเมินว่า คุยไม่รู้เรื่อง บ่งบอกถึงภาวะเครียด เหนื่อยล้า และกังวลเรื่องความปลอดภัย ตำรวจจึงประเมินร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมสุขภาพจิต มองว่า นั่นเป็นช่วงที่เหมาะจะเข้าจู่โจม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ผบก.น.2 เผย "สารวัตรกานต์" ก่อเหตุยิง ปมตรวจสุขภาพจิตไม่ผ่าน
27 ชม.! บุกจับ "สารวัตรเครียด" ได้รับบาดเจ็บ นำส่ง รพ.
ไขคำตอบ! ผู้ป่วยจิตเวชกับแก๊สน้ำตา