จากกรณีเมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 มี.ค.2566 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่งานปราบปรามการทุจริตหลายหน่วยงาน ได้สนธิกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักของ นายสันติ ทวยมีฤทธิ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา และบ้านที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมา รวม 4 จุด พร้อมกับยึดอายัดทรัพย์สินมีค่าหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 2,000,000 บาท และพบเงินหมุนเวียนในบัญชีอีกกว่า 50 ล้านบาท
ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ฯ มีข้อมูลว่า ช่วงปี 2562 นายสันติ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการจัดอบรมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตำบลและอำเภอ ในพื้นที่ 32 อำเภอของ จ.นครราชสีมา ในลักษณะจัดอบรมทิพย์ มีแต่เอกสารโครงการและการเบิกเงิน แต่ไม่มีการจัดอบรมจริง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (17 มี.ค.2566) นพ.สุผล ตติยนันทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ได้เปิดเผยความคืบหน้าว่า ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ ไม่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือลายลักษณ์อักษรจากทางหน่วยงามปราบปรามการทุจริตมาก่อน
แต่มาทราบเรื่องจากสื่อต่างๆ และหลังทราบเรื่องก็รีบทำบันทึกรายงานให้ นพ.ภูวเดช สุระโคตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 9 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาได้ทราบโดยเร็ว ตอนนี้มีการรายงานต่อให้ปลัดกระทรวงฯ ได้ทราบแล้ว และปลัดกระทรวงฯ ได้มีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง
ซึ่งในทางคดี ผู้ต้องสงสัยหรือผู้ถูกกล่าวหาจะต้องชี้แจงพิสูจน์ตนเองภายใต้กระบวนการยุติธรรม ส่วนการดำเนินการทางวินัยข้าราชการ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงขึ้นมา เป็นกรรมการระดับเขต ลงนามแต่งตั้งโดยผู้ตรวจราชการฯ เขตสุขภาพที่ 9 แต่ทั้งนี้จะต้องอาศัยข้อมูลจากการสืบสวนของตำรวจและเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ด้วยว่าจะชี้มูลไปในทิศทางไหน เพื่อจะนำมาประกอบการพิจารณา
หากข้อสรุปพบว่า กระทำผิดจริง คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงจะรายงานให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขทราบเพื่อพิจารณาโทษทางวินัยต่อไป
ซึ่งวันนี้ มีคำสั่งด่วนลงวันที่ 17 มี.ค.2566 มาจากสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงนามโดย นพ.ภูวเดช สุระโคตร ผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข รักษาราชการในตำแหน่งผู้ตรวจราชการฯ เขตสุขภาพที่ 9 สั่งให้ นายสันติ ทวยมีฤทธิ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา หยุดปฏิบัติราชการที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา แล้วให้ไปปฏิบัติราชการ ที่สำนักงานเขตสุขภาพที่ 9 จ.นครราชสีมา จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ส่วนกระบวนการทางคดีและทางวินัย ก็อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบข้อมูลทุกๆ ด้านอยู่ ซึ่งจะต้องให้ความเป็นธรรมผู้ต้องสงสัยหรือผู้ถูกกล่าวหาด้วย
ถ้าข้อเท็จจริงมีมูล ผู้ตรวจราชการฯ เขตสุขภาพที่ 9 ก็จะมีข้อสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยข้าราชการขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง เพื่อพิจารณาตัดสินโทษทางวินัยกันต่อไป แต่ถ้าสืบสวนแล้วข้อเท็จจริงไม่มีมูล แสดงว่าข้อสงสัยนั้นตกไป ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ต้องสงสัย ก็เป็นผู้บริสุทธิ์
ส่วนการดำเนินโครงการจัดอบรมส่งเสริมสุขภาพ หรือแก้ไขปัญหาสุขภาพให้กับพี่น้องประชาชน ตอนนี้ไม่ได้รับผลกระทบอะไร ยังเดินหน้าต่อตามปกติ รวมไปถึงโครงการที่ต้องมีการจัดซื้อจัดจ้าง ก็มีระเบียบปฏิบัติกำกับไว้อย่างเคร่งครัดอยู่แล้ว เพื่อตรวจสอบก่อนจะอนุมัติ ซึ่งหากมีการละเมิดกระทำผิดระเบียบปฏิบัติ ก็จะไม่อนุมัติโครงการฯ
ต้องขอให้พี่น้องประชาชนได้มั่นใจว่า ระบบการปฏิบัติงานสาธารณสุขยังเดินหน้าต่ออย่างแน่นอน เพราะในระบบจะมีระเบียบมีขั้นตอนปฏิบัติที่ชัดเจนเกี่ยวกับกับเรื่องการใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดิน พี่น้องประชาชนจะไม่ได้รับผลกระทบ
ส่วนกระบวนการตรวจสอบความยุติธรรม รวมถึง การตรวจสอบการการทุจริต ประพฤติมิชอบ เป็นกระบวนการธรรมาภิบาลของบ้านเมือง มีไว้เพื่อสร้างความสมดุล ไม่ให้มีใครละเมิด ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาพร้อมให้ความร่วมมือสนับสนุนการดำเนินงานอย่างเต็มที่ ไม่ได้มองว่ากำลังถูกจับผิดหรือถูกตรวจสอบ
แต่ก็ต้องขอกำลังใจจากทุกๆ ฝ่าย ได้เป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขด้วย ให้เดินหน้าดูแลแก้ไขปัญหาสุขภาพให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างเข้มแข็งกันต่อไป ส่วนนายสันติฯ ตอนนี้กระบวนการตรวจสอบฯ ยังไม่ได้ข้อยุติ ยังไม่ได้พิพากษาตัดสินก็ต้องให้กำลังใจ และให้ความเป็นธรรมได้มีโอกาสพิสูจน์ความบริสุทธิ์ด้วย
อ่านข่าวเพิ่ม :
เปิดโปงขบวนการทุจริตงบรัฐ “อบรมทิพย์” โคราช
สธ.ตั้ง คกก.สืบข้อเท็จจริง "รอง สสจ.โคราช" ปมจัดสัมมนาทิพย์
อายัดทรัพย์ "รอง สสจ.โคราช" โยงจัดสัมมนาทิพย์ - เร่งขยายผลขบวนการ
จนท.ค้นบ้าน "รอง สสจ.โคราช" โยงจัดสัมมนาทิพย์