วันนี้ (27 มี.ค.2566)นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ออกมาชี้แจง ประเด็นที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ภาพใบเสนอราคาค่าแถลงข่าว 300,000 บาท ในชื่อของบริษัทนายษิทรา โดยยอมรับว่ามีคดีที่ตัวเองเรียกเก็บเงินจริง แต่ไม่ใช่ทุกคดี เว้นแต่เป็นคดีที่ต้องต่อสู้กับผู้มีอิทธิพล ซึ่งลูกความต้องมีกำลังจ่าย เพราะอาจถูกฟ้องร้อง โดยเงินจะนำไปใช้จ่ายกับทุกคนที่จะถูกฟ้อง ไม่ใช่เพียงตัวเองเท่านั้น
ส่วนภาพ ที่นายชูวิทย์โพสต์ เป็นเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา มีบุคคลอ้างชื่อนายตี้ เกี่ยวข้องกับเว็บพนันมาปรึกษา ว่ามีญาติกดโทรศัพท์ตัวเองโอนเงิน 40 ล้านบาท เข้าเว็บพนัน จึงต้องการให้ตามเรื่องกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แต่เรื่องเกี่ยวข้องกับ
นายตำรวจใหญ่ จึงเรียกเงินค่าฟ้องร้อง และเก็บเพิ่มอีก 15%
เรื่องนี้ไม่ได้ตกลงกัน และผู้เสียหายจึงไปพบทนายเดชา กิตติวิทยานนท์แทน ทำให้ใบเสนอราคากลายเป็นที่มาของการแฉครั้งนี้ ยืนยันตัวเอง ไม่ได้ไถเงิน แต่เป็นค่าดำเนินการ
เหตุผลที่เก็บค่าแถลงข่าว เพราะเรื่องดังกล่าวถูกฟ้องแน่นอน ไม่ใช่ค่าแถลงข่าวแต่เป็นค่าเสี่ยงภัย เพราะผมต้องมีต้นทุนในการดำเนินคดี ไม่เคยไถเพื่อจัดแถลงข่าว
นายษิทรา ยังเผยค่าใช้จ่ายส่วนต่างๆ ในการรับทำคดี คิดเงินค่าปรึกษากับทีมงานผ่านโทรศัพท์เป็นเวลา 20 นาที ราคา 1,000 บาท ปรึกษากับตัวเอง 1,500 บาท หากมาพบที่สำนักงานภายครึ่งชั่วโมง จะคิดเงิน 3,000 บาท ยืนยันว่าโปร่งใส สามารถตรวจสอบเส้นทางการเงินได้ เพราะเสียภาษีอย่างถูกต้อง ไม่ผิดมารยาททนายความ เพราะการเรียกรับเงินถือเป็นเรื่องปกติ
ยืนยันด้วยว่าไม่ได้เงินจากใคร จากการแฉเรื่องนายชูวิทย์ รับเงิน 6 ล้านบาท เพียงแต่ตัวเองทราบข้อมูลมา และไม่ได้หลอกใช้สื่อ พร้อมไม่กลัวว่าสื่อจะไม่มานำเสนอข่าวให้ตัวเอง
ดังนั้นหลังจากนี้เวลาแจ้งหมายข่าวจะระบุด้วยว่าคดีไหนได้รับเงินหรือไม่ ที่ผ่านมามีทั้งคนจนและรวยที่มาปรึกษา แต่ไม่ได้เก็บเงินทั้งหมด
ส่วนเรื่องการใช้ชีวิตอยู่สบาย และเดินทางไปต่างประเทศ ต้องการให้ความสุขครอบครัว ไม่ถือเป็นเรื่องแปลก ยืนยันว่าทำธุรกิจโดยสุจริต
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ชูวิทย์" ขู่ฟ้อง "ทนายตั้ม" 100 ล้านหมิ่นประมาทรับเงินเทา
"ชูวิทย์" ตั้งทนายฟ้อง "ษิทรา" มอบเงินบริจาค 6 ล้าน ให้ ผบ.ตร. สอบที่มา