วันนี้ (28 มี.ค.2566) พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เพื่อดำเนินคดีกับ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA)
ภายหลังนายอัจฉริยะ พาดพิงและกล่าวหาว่าตัวเอง เกี่ยวข้องกับการนำเงินจำนวน 6 ล้านบาท ของสารวัตรซัว ไปมอบให้กับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ พร้อมแสดงรูปถ่ายของตัวเอง เปิดเผยต่อสาธารณชนที่กองปราบปราม
รวมทั้งกล่าวหาว่าภรรยา ได้เงินจากเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งภรรยาทำอาชีพสุจริต การถูกกล่าวหาส่งผลให้ตัวเองครอบครัว และสำนักงาน ปปง.ได้รับความเสียหาย และเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นก่อนที่ตัวเองเข้ามารับตำแหน่ง รองเลขา ปปง.
ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงิน 6 ล้านบาท ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ ไม่รู้จักกับสารวัตรซัว หรือรู้จักกับนายชูวิทย์ เป็นการส่วนตัว และที่สำคัญไม่เคยไปโรงแรมของนายชูวิทย์
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMho37JGQRowwe89nNHb69MIqp0je.jpg)
อ่านข่าวเพิ่ม "ทนายตั้ม" โยงเงิน 6 ล้าน-ยื่นหลักฐานสอบเส้นทางเงิน "ชูวิทย์"
พล.ต.ต.เอกรักษ์ แต่ยอมรับว่า เป็นคนแนะนำให้เจ้าของบ่อน และตำรวจยศ พล.ต.ท.รู้จักกัน ส่วนจะไปมีความสัมพันธ์ หรือติดต่อกับนายชูวิทย์ เพื่อขอคำปรึกษาเรื่องธุรกิจอะไรนั้น ตัวเองไม่ทราบ ทำหน้าที่เพียงแนะนำให้รู้จักเท่านั้น
หากมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าตัวเอง เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ก็จะรับผิดชอบด้วยการลาออก ระหว่างนี้ก็พร้อมให้ตรวจสอบ รวมทั้งเส้นทางการเงินของภรรยา
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMho37JGQRowwe89gBmA5npceecXu.jpg)
ส่วนภาพถ่ายร่วมกับบุคคลที่เจ้าหน้าที่ เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดเว็บพนันออนไลน์นั้น พล.ต.ต.เอกรักษ์ อธิบายว่า ผู้ที่ขอถ่ายรูปนั้น คือรูปของลูกชายเพื่อนที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นใน จ.อ่างทอง วันเกิดเหตุ คือวันที่ 14 มี.ค. ตัวเองได้ไปสอนหนังสือ ซึ่งบุคคลที่มาขอถ่ายรูปก็เป็นศิษย์ที่มาเรียน และมาขอถ่ายรูป อ้างว่าจะส่งให้พ่อดู
หลังจากนี้ พล.ต.ต.เอกรักษ์ เตรียมรวบรวมหลักฐาน เพื่อดำเนินคดี กับนายษิทรา เบี้ยบังเกิดอีกคน ภายหลังพาดพิง ให้เกิดความเสียหาย โดยมองว่า การออกสื่อควรระมัดระวังทำให้ผู้อื่นเสียหาย
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMho37JGQRowwe89kJARu5sjvS82p.jpg)
ดังนั้นเป็นทนายความ ควรว่ากันด้วยพยานหลักฐาน แม้ว่าทุกคนจะมีสิทธิการในพูด
ส่วนเรื่องความกังวล หากจะตรวจสอบเส้นทางการเงินของตัวเอง ทั้งที่อยู่ในตำแหน่งรองเลขาธิการ ปปง. ขอยืนยันไม่ต้องกังวล เพราะตัวเองไม่มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบ โดยรับผิดชอบด้านยุทธศาสตร์หรือการฝึกอบรมต่างๆ เท่านั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"อัจฉริยะ" ร้องเอาผิด 2 นายพล ปมเงิน 6 ล้านให้ "ชูวิทย์"
"ชูวิทย์" โต้ "ทนายตั้ม" ระบุนำเงิน 6 ล้านแลกหยุดแฉ บริจาคหมดแล้ว