วันนี้ (4 เม.ย.2566) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายชัยเกษม นิติสิริ นายเศรษฐา ทวีสิน นำทัพพรรคเพื่อไทย เดินทางมาถึงศาลาว่าการ กทม. 2 ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า แม้วันนี้จะจับได้หมายเลขอะไรก็ขอให้ประชาชนจำให้ได้ ซึ่งหากได้เบอร์แล้วจะรีบประกาศทันที พร้อมยืนยันว่าจะไปร่วมเวทีวันที่ 5 เม.ย.นี้ ที่จะมีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค อีกทั้งขณะนี้ยังสามารถไปตามเวทีต่างๆ ในกรุงเทพฯ ได้
ส่วนหากพรรคเพื่อไทยได้ไม่ถึง 310 เสียง มีโอกาสจับมือกับพรรคอื่นหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า มีจุดมุ่งหมายคือ 310 เสียง โดยจะดูเวลาและดูโอกาสอีกครั้ง
ส่วนกรณีที่ไม่ลงสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อนั้น อยู่ตรงไหนแล้วทำงานเพื่อประชาชนได้นั่นคือสิ่งสำคัญ ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้กำหนดไว้ว่าจะต้องอยู่ในปาร์ตี้ลิสต์ และทุกตำแหน่งของพรรคเพื่อไทยใกล้ชิดประชาชน แม้ว่าตนเองจะตั้งครรภ์ได้ 8 เดือนก็ยังใกล้ชิดประชาชนอยู่เช่นกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายทักษิณ ชินวัตร เป็นห่วงหรือให้คำแนะนำเรื่องใดบ้าง น.ส.แพทองธาร ตอบว่า พ่อเป็นห่วงเรื่องสุขภาพ ขณะนี้ได้ตรวจเช็กกับแพทย์อยู่เสมอ ซึ่งยังไหวและยังเดินหน้าต่อไป พร้อมตอบคำถามว่า นายทักษิณสนับสนุนให้ลง ส.ส.หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่ และทุกเรื่องเป็นการตัดสินใจของตนเอง พร้อมย้ำว่าตนเองตั้งใจจะทำในฝ่ายบริหาร ไม่ทำในฝ่ายนิติบัญญัติ โดยให้เป็นหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญ
ขณะที่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคส่งครบทั้ง 100 รายชื่อ ความคาดหวังน่าจะเกิน 50 รายชื่อ ส่วนเรื่องแลนด์สไลด์ก็จะส่งผลต่อเนื่องกัน เพราะเท่าที่ดูระบบรายชื่อคะแนนนิยมดีกว่าเขต ดังนั้น 50 รายชื่อเป็นเซฟโซน ส่วนตัวเลข 310 คือเป้าหมาย ซึ่งมั่นใจว่าวิธีการของพรรคเพื่อไทยจะทำให้เข้าถึงจุดนั้นได้ ส่วนแคนดิเดตนายกฯ จะมีการประชุมของกรรมการบริหารพรรคในช่วงบ่ายวันนี้ และจะประกาศในวันพรุ่งนี้ (5 เม.ย.) ทั้ง 3 รายชื่อ
ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีความพร้อมมานานแล้ว ทั้งบุคลากรและนโยบาย ซึ่งไม่ว่าจะจับได้เบอร์อะไรก็มีความพร้อม ส่วนตัวเองตัดสินใจไม่ลงปาร์ตี้ลิสต์ เพราะงานถนัดคือด้านบริหาร ไม่ใช่นิติบัญญัติ ซึ่งหน้าที่ในวันนี้คือเผยแพร่นโยบายของพรรคเพื่อไทย จากนี้จะลงพื้นที่ทุกวันเพื่อพบปะประชาชน
ส่วนตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่อยากกดดันกรรมการบริหารของพรรค ซึ่งส่วนตัวมีความสามารถด้านการบริหาร หากไม่ได้เป็นนายกฯ ก็ยังอยู่ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และยังคงเป็นสมาชิกพรรค ซึ่งมั่นใจว่าตนเองมีคุณสมบัติที่จะสามารถทำประโยชน์ให้กับพรรคได้ในหลายๆ ด้าน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
#เลือกตั้ง66 หลายพรรคตบเท้าสมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์
"ชูวิทย์" ปัดกวาดการเมืองสีเทา แฉมีซื้อตัว ส.ส. เขตละ 60 ล้าน