วันนี้ (5 เม.ย.2566) นายพิทยา ปราโมทย์วรพันธุ์ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า กรณีมีผู้ร้องเรียนพบการลักลอบทิ้งสารเคมีในพื้นที่ อ.ภาชี นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดี คพ.ได้สั่งการให้สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 6 นนทบุรี (สคพ.6) ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างเร่งด่วน
เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการลักลอบทิ้งของเสียแหล่งใหม่ เพื่อป้องกันสารเคมีแพร่กระจายส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นวงกว้าง โดย สคพ.6 ได้ร่วมกับ อ.ภาชีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อบต.โคกม่วง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตรวจสอบการทิ้งของเสียในพื้นที่ หมู่ 2 และหมู่ 3 ต.โคกม่วง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา
ภาพ:กรมควบคุมมลพิษ
จากการตรวจสอบพบสถานที่ถูกร้องเรียนเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลมีเนื้อที่ 70 ไร่ เป็นพื้นที่บ่อดินเก่า 40 ไร่ จุดที่เป็นพื้นที่ลักลอบทิ้งพบว่ามีการขุดหลุม 6 บ่อ ความกว้าง 3-4 เมตร ลึกประมาณ 1-2 เมตร
ภาพ:กรมควบคุมมลพิษ
นายพิทยา กล่าวว่า ของเสียที่พบในบ่อมีลักษณะเป็นของเหลวสีเขียวอ่อน ตรวจวัดค่าความเป็นกรด-ด่าง มีค่า 0-1 เข้าข่ายเป็นวัตถุอันตราย และเป็นของเสียประเภทสารละลายกรดหรือด่างที่มี pH ต่ำกว่า 2 หรือสูงกว่า 11.5 ตามประ กาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องบัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ.2556 การครอบครองวัตถุอันตรายดังกล่าวจะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งอำเภอภาชีได้ทำการปิดกั้นห้ามเข้าพื้นที่แล้ว
ภาพ:กรมควบคุมมลพิษ
จากการตรวจสภาพพื้นที่โดยรอบ มีแหล่งน้ำสาธารณะใช้ทำการเกษตร ตรวจวัดความเป็นกรด-ด่าง มีค่า 7.4 โดยเก็บตัวอย่างน้ำผิวดิน และบ่อน้ำในพื้นที่ 3 ตัวอย่าง และกากของเสีย 1 ตัวอย่าง ส่งตรวจวิเคราะห์โละหนัก เพื่อประเมินการปนเปื้อนออกสู่สิ่งแวดล้อมภายนอก
ทั้งนี้.สคพ.6 ได้แนะนำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าของพื้นที่ไปแจ้งความดำเนินคดีและให้เฝ้าระวังการลักลอบนำของเสียมาทิ้ง ว่าอาจเข้าข่ายมีความผิดตามพรบ.วัตถุอันตรายและพรบ.รักษาความสะอาด
ภาพ:กรมควบคุมมลพิษ