วันนี้ (7 เม.ย.2566) นายอรรถพล เจริญชันษา รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ กรณีกรมอุทยานฯ แกะรอย 1 เดือนขบวนการลอบตัดไม้ประดู่ที่ถูกลักลอบตัดจากป่าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยผึ้ง-วังยาว อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ โดยเจ้าหน้าที่ใช้ GPS ติดไม้ประดู่ และสามารถติดตามถึงแหล่งลักลอบซุกโกดังในพื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
นายอรรถพล กล่าวว่า จากการนำหมายค้นเข้าตรวจสอบพบโรงเลื่อยดังกล่าว พบว่าหนึ่งในรายชื่อที่เป็นหุ้นส่วนสำคัญคือ น.ส.พิมประไพ ซึ่งเป็นพนักงานราชการ ตำแหน่งคอมพิวเตอร์ สํานักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 สาขาเพชรบุรี กรมป่าไม้ ซึ่งตำรวจได้ออกหมายเรียกให้มารายงานตัวแล้ว และทราบว่าทางกรมป่าไม้ มีการสั่งย้ายออกจากพื้นที่แล้ว
ไม้ประดู่ของกลางที่ตัดออกจากป่าห้วยผึ้ง-วังยาว อ.น้ำปาด รวม 11 ท่อน ยืนยันว่าเป็นไม้ที่ถูกลักลอบตัดจากป่า ส่วนอีก 390 ท่อนที่ตรวจพบเจ้าของโกดังต้องนำเอกสารมาแสดงว่ามีที่มาอย่างไร
นายอรรถพล กล่าวอีกว่า สำหรับมูลค่าไม้ของกลางที่ตรวจพบในโกดังแห่งนี้มีมูลค่า 19 ล้านบาท ตอนนี้ตำรวจขอให้เจ้าของโรงเลื่อยและหุ้นส่วนมารายงานตัว ถ้าไม่มาพบพนักงานสอบสวนจะถูกออกหมายเรียก
ขณะที่การตรวจสอบทางลึกยังพบว่าพนักงานราชการคนดังกล่าว ยังมีรายชื่อในโรงเลื่อยอีกหลายแห่ง ซึ่งกรมอุทยานฯ-กรมป่าไม้ ได้ประสานให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) เข้ามาช่วยในการสืบสวนขยายผลเพิ่ม
ย้ายออกพนักงานกรมป่าไม้ พบโกดังซุกไม้ประดู่
ด้านนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ขณะนี้มีการสั่งย้ายพนักงานราชการ ที่ปรากฏรายชื่อเป็นหุ้นส่วนโกดังไม้ของกลางที่กรมอุทยานฯ เข้าตรวจสอบที่จ.เชียงใหม่
เบื้องต้น ผอ.สจป.สาขาเพชรบุรี มีคำสั่งย้ายมาประจำที่สำนักงานพร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง หลังจากนี้ถ้าผลสอบสวนว่าพัวพันการลอบตัดไม้ ก็จะตั้งกรรมการสอบวินัย และลงโทษตามขั้นตอน รวมทั้งการดำเนินคดีอาญา
สำหรับคดีดังกล่าว กรมอุทยานฯ แกะรอยมากว่า 1 เดือนตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 ลาดตระเวนพบการทำไม้ประดู่ 6 ท่อนที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยผึ้ง-วังยาว จึงนำเครื่องติดตามสัญญาณดาวเทียม (GPS) ไปฝังในเนื้อไม้ประดู่ท่อน และล่าสุดเมื่อวานนี้ (6 เม.ย.) พบสัญญาณปรากฏที่โกดังในต.ป่าป้อง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่จึงขอหมายศาลเข้าค้น และพบไม้ประดู่ท่อนแปรรูปดังกล่าว
สรุปคดีไม้ประดู่ท่อน ที่ตรวจพบ
- จำนวนไม้ท่อน 401 ท่อน 15 กอง
ตรวจยึด 390 ท่อนตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 และตรวจยึด 11 ท่อน ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวน 2507 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2562
• ปริมาตรไม้ท่อนทั้งหมด 198.12 ลบ.ม.
• ค่าภาคหลวง 15,849.บาท
• ประเมินมูลค่าความเสียหายไม้ท่อน 6.8 ล้านบาท
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
แกะรอย 1 เดือนติด GPS "ไม้ประดู่" ลอบตัดจากป่าเหนือซุกโกดัง