เป็นที่ทราบกันดีว่ามหาเศรษฐีระดับโลกอย่าง "อีลอน มัสค์" นั้นได้ก่อตั้งบริษัทอวกาศอย่าง "สเปซเอ็กซ์" (SpaceX) ขึ้นมาในปี ค.ศ. 2002 เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการออกแบบจรวดที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำใหม่ได้เหมือนกับเครื่องบินโดยสาร ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการขนส่งสัมภาระและมนุษย์ไปยังอวกาศลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยตัว "อีลอน มัสค์" เชื่อว่า ระบบการขนส่งแบบใหม่จะช่วยให้มนุษย์ตั้งถิ่นฐานบนดวงดาวอื่น ๆ นอกเหนือจากโลกได้
ล่าสุดทางสเปซเอ็กซ์ก็ได้ประกาศว่าจะมีการทดสอบ "สตาร์ชิป" (Starship) ภายในเดือนเมษายน ค.ศ. 2023 นี้ ซึ่งสตาร์ชิปนั้น เป็นระบบขนส่งสำหรับการเดินทางไปยังอวกาศที่ประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่ ส่วนยานอวกาศด้านบนที่ได้รับการออกแบบมาให้บรรทุกสัมภาระกับขนส่งมนุษย์ และส่วนจรวดด้านล่างที่ประกอบไปด้วยถังเชื้อเพลิงและเครื่องยนต์เป็นหลัก
ด้วยความสูงที่ตั้งตระหง่านกว่า 120 เมตร หรือ เทียบเท่ากับตึก 40 ชั้นของสตาร์ชิปนี้ ทำให้สตาร์ชิปกลายเป็นพาหนะนำส่งสิ่งของไปยังอวกาศที่ใหญ่และทรงพลังที่สุดเท่ามนุษยชาติเคยสร้างขึ้นมา และยังส่งผลให้สตาร์ชิปตั้งอยู่อย่างโดดเด่นเหนือเส้นขอบฟ้าบนฐานปล่อยท่ามกลางที่ราบโล่งของ รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ซึ่งสามารถมองเห็นได้ไกลออกไปหลายกิโลเมตร
โดยจรวดสตาร์ชิปนั้นเป็นจรวดที่สามารถนำกลับมาใช้งานใหม่ได้เป็นลำดับที่ 3 ของบริษัทสเปซเอ็กซ์ ที่บริษัทได้เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2018 และผ่านการทดสอบขึ้นบินย่อย ๆ มาหลายครั้งแล้ว แต่ทว่าการทดสอบที่กำลังจะเกิดนี้จะเป็นการทดสอบครั้งแรกที่สตาร์ชิปจะขึ้นไปสู่วงโคจรระดับต่ำของโลกด้วยแรงขับดันจากจรวดส่วนล่าง ซึ่งถือว่าความสูงที่สตาร์ชิปจะทะยานขึ้นไปสัมผัสนั้นเป็นเขตแดนของอวกาศจริง ๆ เป็นครั้งแรก ก่อนที่ตัวยานอวกาศทั้งสองส่วนจะเดินทางกลับมายังโลกในคนละสถานที่กัน โดยยานสตาร์ชิปส่วนล่างจะลงจอดบนฐานปล่อย ณ รัฐเท็กซัส ส่วนตัวยานด้านบนนั้นจะไปลงจอดกลางมหาสมุทรใกล้ชายฝั่งหมู่เกาะฮาวาย
อย่างไรก็ดีในตอนนี้ทางสเปซเอ็กซ์ก็ยังคงต้องรอการรับรองจากองค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (Federal Aviation Administration - FAA) ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลและรักษาความปลอดภัยของอากาศยานเหนือน่านฟ้าสหรัฐอเมริกา ว่าแผนการทดสอบยานสตาร์ชิปของสเปซเอ็กซ์ นั้น มีความปลอดภัยรัดกุมเพียงพอหรือไม่
และถ้าหากการทดสอบที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ดำเนินไปได้ด้วยดี สเปซเอ็กซ์ก็จะเริ่มพัฒนาสตาร์ชิปที่สามารถเดินทางไปกลับดวงจันทร์ได้ ตามความต้องการขององค์การนาซา ที่มอบหมายให้สเปซเอ็กซ์เป็นหนึ่งในบริษัทคู่สัญญาสำคัญที่จะสนับสนุนโครงการอาร์ทิมิส (Artemis) ในด้านระบบขนส่งเพื่อที่จะตั้งถิ่นฐานบนดวงจันทร์และดาวอังคารต่อไปในอนาคต
ที่มาข้อมูล: SPACE.COM
ที่มาภาพ: SpaceX
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech