นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า หลังจากที่ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2566 เมื่อวันที่ 20 มี.ค.2566 ส่งผลให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560
ดังนั้น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พ้นจากตำแหน่งจึงมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 102 (1) ซึ่งกำหนดให้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน เมื่อเข้ารับตำแหน่งและเมื่อพ้นจากตำแหน่ง สำหรับการยื่นบัญชีทรัพย์สินครั้งนี้ให้ถือวันที่ยุบสภาคือวันที่ 20 มี.ค.2566 เป็นวันที่พ้นจากตำแหน่ง และต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินภายใน 60 ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.-19 พ.ค.2566
เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า กรณีที่ ส.ส. ไม่สามารถยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินได้ทันภายในระยะเวลาดังกล่าว สามารถขอขยายระยะเวลาการยื่นบัญชีทรัพย์สินได้อีกไม่เกิน 30 วัน โดยต้องยื่นคำขอขยายระยะเวลาก่อนวันที่ 19 พ.ค.2566
สำหรับช่องทางการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน มี 3 ช่องทาง ได้แก่ ยื่นด้วยตนเอง ณ สำนักงาน ป.ป.ช. ส่วนกลาง หรือสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด, ยื่นทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ ถึง สำนักงาน ป.ป.ช. เลขที่ 361 ถนนนนทบุรี ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี 11000 และทางเว็บไซต์ https://asset.nacc.go.th/ods-app/
ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ โทร.1205 หรือที่สำนักงาน ป.ป.ช. ส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ