กระทรวงสาธารณสุข คาดการณ์ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่โควิด-19 จะระบาดพร้อมกับไข้หวัดใหญ่ในช่วงฤดูฝน ทำให้ต้องเร่งรณรงค์ให้ผู้ปกครองพาบุตรหลานมารับวัคซีน
ผู้ปกครองต่างพาบุตรหลานอายุตั้งแต่ 6 เดือนถึง 18 ปี เข้ารับวัคซีนโควิด-19 ที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ก่อนถึงวันเปิดภาคเรียนในเดือน พ.ค.
สำหรับเด็กอายุ 6 เดือนถึง 4 ปี ควรฉีด 3 เข็ม เป็นวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีแดง เข็มแรกและเข็มที่ 2 ห่างกัน 1 เดือน เข็มที่ 3 ห่างจากเข็มที่ 2 ระยะเวลา 2 เดือน
อายุ 5 - 11 ปี เป็นวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีส้ม เข็มแรกและเข็มที่ 2 ห่างกัน 2 เดือน ฉีดเข็มกระตุ้น 1 เข็ม ห่างจากเข็มที่ 2 ระยะเวลา 3 - 6 เดือน
ส่วนอายุ 12-17 ปี เป็นวัคซีนฝาสีม่วง ฉีดเข็มแรกและเข็มที่ 2 ห่างจาก 4 สัปดาห์ถึง 1 เดือน เข็มที่ 3 ห่างจากเข็มที่ 2 ระยะเวลา 4-6 เดือน
ส่วนอายุ 18 ปีขึ้นไปตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ผู้ปกครอง บอกว่า พาลูกมาซีนวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันก่อนเปิดภาคเรียน และหลังจากนี้จะพาไปฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ด้วย
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์โควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนอย่ากังวลกับสถานการณ์มากเกินไปจนกระทบต่อชีวิตประจำวัน
ส่วนการเปิดภาคเรียนทำได้อย่างปกติ แต่ขอให้ระมัดระวัง หากมีอาการสงสัยก็ให้รีบตรวจ ATK และสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน
เช่นเดียวกับที่ จ.เชียงใหม่ นพ.วรเชษฐ เต๋ชะรัก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์จังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า ระหว่างวันที่ 16 - 22 เม.ย.2566 หรือช่วงหลังสงกรานต์พบว่า จำนวนผู้ป่วยสูงขึ้นโดยมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยัน 24 คน และผู้ป่วยติดเชื้อเข้าข่าย 833 คน แต่ทั้งนี้ไม่ปรากฏว่า มีผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ส่วนใหญ่ติดเชื้อสายพันธุ์ดั้งเดิม ไม่มีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่
ขณะเดียวกัน ยืนยันว่า ทุกโรงพยาบาลของจังหวัดเชียงใหม่มีศักยภาพและความพร้อมอย่างเต็มที่ในการรองรับผู้ป่วยอย่างเพียงพอ
นอกจากนี้แนะนำให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อลดอาการรุนแรงและลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตหากติดเชื้อ