วันนี้ (9 พ.ค.2566) สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติและตัวแทนเกษตรกรฟาร์มสุกรทั่วทุกภูมิภาค รวมตัวกันบุกกรมศุลกากร เพื่อยื่นหนังและหารือกับอธิบดีกรมศุลกากร ในเรื่องปัญหาเนื้อหมูล้นตลาด จากการลักลอบนำเข้าและค้าเนื้อหมูเถื่อน จนเป็นการทำลายอาชีพของผู้เลี้ยงสุกรไทย ทำให้ราคาสุกรหน้าฟาร์มตกต่ำลงต่อเนื่อง จาก 110 บาท ลดเหลือ 65 - 75 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้เกษตรกรขาดทุนหนัก
ทั้งนี้ ตัวแทนสมาคมนาคมผู้เลี้ยงสุกรฯ กดดันให้กรมศุลกากร ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการเร่งทำลายชิ้นส่วนหมูที่ตกค้างในท่าเรือแหลมฉบังจำนวน 161 ตู้ทั้งหมด น้ำหนักกว่า 4.5 ล้านกิโลกรัม ที่ตรวจพบก่อนหน้านี้ เพื่อเป็นการการันตีว่าของกลางจะไม่หลุดออกไปข้างนอก
กรมศุลฯ เร่งส่งสำนวนคดีให้ ตร.เอาผิดผู้นำเข้า
ด้าน นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร ระบุว่า ปัจจุบันกรมฯได้ส่งสำนวนให้ตำรวจสอบสวนกลาง ดำเนินคดีเอาผิดอย่างเด็ดขาด หลังจากช่วงที่ผ่านมา กรมศุลกากรร่วมมือกับหลายหน่วยงานคุมเข้มการนำเข้าสินค้าในท่าเรือ เพื่อดูแลการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรและชิ้นส่วนต่าง ๆ เป็นกรณีพิเศษ ยืนยัน 161 ตู้ จะส่งทำลายทั้งหมด
ส่วนกรณีที่มีเบาะแสว่า พบเจ้าหน้าที่ภายในกรมศุลกากรมีการใช้ช่องทางผ่อนคลายของหลักเกณฑ์การตรวจสอบสินค้า ตามอำนาจพนักงานศุลกากรตรวจของที่กำลังผ่านพิธีการในลักษณะไม่ต้องตรวจสอบประเภทพิกัดอัตราศุลกากร ราคา และชนิดของ ในลักษณะของการผ่านแบบ Green Line นั้น ยอมรับว่ามาตรการนี้กำหนดขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างประเทศ
อธิบดีกรมศุลกากร ได้สั่งการให้ตรวจทุกตู้สินค้าที่สำแดงนำเข้าเป็นสินค้าอาหารสดแช่แข็งทั้งหมด Green line, Red line ต้องทำการแสกนตรวจทั้งหมด ยืนยันจะปราบปรามสุกรเถื่อนอย่างเข้มงวดมากขึ้น
ด้านนายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และตัวแทนเกษตรกรฟาร์มสุกร ได้เสนอให้กรมศุลกากรแก้ไขกฎหมายนำเข้าเพื่อป้องกันลักลอบนำเข้าอย่างชัดเจน เนื่องจากก่อนหน้านี้มีกรณีที่ผู้นำเข้าแอบแฝงลักลอบนำเข้าเนื้อหมูมาผสมมากกับการสำแดงนำเข้าเป็นสินค้าประเภท ปลา และอาหารทะเล
อ่านข่าวอื่น ๆ
ฝังทำลายหมูเถื่อน 7 แสน กก.มากที่สุดเป็นประวัติการณ์
จับเนื้อหมูเถื่อน 779 กก.ทะลักจากกัมพูชา เตรียมส่งขาย กทม.
ย้าย 2 ข้าราชการปศุสัตว์ จ.ตาก หลัง The EXIT ชี้เบาะแส “วัวกักโรคไม่ครบ”