วันนี้ (12 พ.ค.2566) พรรคชาติพัฒนากล้า จัดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้าย ก่อนการเลือกตั้ง ในหัวข้อ “ร่วมสร้างประเทศแห่งโอกาส สู้ทุนผูกขาด เศรษฐกิจต้องเรา” ณ โรงแรมรามาการ์เดนส์ ถ.วิภาวดีรังสิต โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยประชาชนและผู้สนับสนุนพรรคทยอยเดินทางเข้าร่วมงานจนแน่นห้องคอนเวนชัน พร้อมถือป้ายสนับสนุนผู้สมัครในเขตต่าง ๆ และป้ายข้อความสนับสนุน นายกรณ์ จาติกวณิช ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค
นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ไม่เคยฝันว่าจะมาเป็นนักการเมือง คนถามว่า มาทำการเมืองทำไม เมื่อ 30 ปีก่อน มีการทำนายว่าประเทศไทยจะเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย ผ่านมา 30 ปี วันนี้เราเป็นได้แค่แมวป่วยตัวที่ 10 เศรษฐกิจเราถดถอยมาตลอดอย่างต่อเนื่องเกือบ 10 ปี เราติดลบ และฟื้นช้ามากกว่าหลายประเทศในเอเชีย นั่นเพราะโครงสร้างเศรษฐกิจเราแย่ นั่นคือเหตุผลที่เข้ามาทำงานการเมืองกับนายกรณ์
โดยส่วนตัวไม่ได้รู้จักนายกรณ์ จาติกวณิช แต่ชื่นชมการทำงานมาเป็น 10 ปี จากการแก้ปัญหาวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ จากจีดีพีติดลบ ขึ้นมาเป็นบวกถึง 7% ภายในเวลาไม่ถึงปี จนได้เป็นรัฐมนตรีคลังโลก
อีกคนที่ประทับใจคือ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เป็นอัจฉริยะด้านกฎหมาย มีความเฉียบคมสามารถย่อยเรื่องที่ยาก สื่อสารให้คนเข้าใจได้ โดยเฉพาะทฤษฎีไม้เสียบลูกชิ้น ถ้าจะทำอะไรสักอย่างต้องเอาเสียบไม้ โดยมีนายกรณ์ เป็นคนกำกับว่าประชาชนได้ประโยชน์อะไร ประเทศชาติได้อะไร นโยบายทุกนโยบายของพรรค เป็นไปได้จริง เราผ่านการตรวจสอบมาทุกขั้นตอน หลายพรรคไม่มี ตนทำการค้ามาตั้งแต่ตึกแถว จนเป็นธุรกิจเครื่องเขียนหมื่นล้าน
ตนคิดตลอดเวลาว่า ประเทศไทยมีของดีเยอะมาก ตนพยายามที่บอกรัฐบาลว่าประเทศไทยควรมีแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์สเป็นของตัวเอง เพราะเป็นเทรนด์โลก ปัจจุบันเราสูญเสียเอกราชทางการค้าออนไลน์ให้ต่างชาติไปเรียบร้อย เขาจะขึ้นค่าธรรมเนียมหรือจะทำอะไร ข้อมูลอยู่ในมือเขา เป็นสิ่งที่พรรคชาติพัฒนากล้าต้องเข้ามาแก้ นโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า เป็นโอกาสนิยม ไม่ใช่ประชานิยม หลายประเทศล้มละลายหลายประเทศ เช่น อาร์เจนตินา เวเนซุเอลา ศรีลังกา ฯลฯ
นายวรวุฒิ กล่าวว่า ประเทศเราไม่เหมาะทำประชานิยม เพราะเรามีหนี้สาธารณะสูงติดเพดานแล้ว ตอนนี้เศรษฐกิจกระเตื้องมาแล้ว จะมาแจกเงินมันไม่ใช่เวลา ประเทศไหนใช้ประชานิยม จะตามมาด้วยการขึ้นภาษี ยิ่งแจกเยอะยิ่งขึ้นภาษีเยอะ สิ่งที่พวกเราระมัดระวังในการออกนโยบายเศรษฐกิจ สิ่งที่เราเน้นคือเรื่องหาเงินเข้าประเทศ คือ เศรษฐกิจเฉดสี 7 เรื่องใหญ่ หาเงิน 5.5 ล้านบาทในอีก 4 ปีข้างหน้า เช่น ส่งเสริมให้มีรถอีวี, ทุกครัวเรือนเป็นโรงไฟฟ้าด้วยตัวเอง, พันธบัตรป่าไม้ลดปัญหา PM 2.5 แล้วมาปลูกไม้ยืนต้นแทน เพื่อการแก้ปัญหายั่งยืน สามารถสร้างรายได้มากกว่า อ้อย ข้าวโพด สามารถขายไปได้ทั่วโลก โดยไม่ต้องเผาไร่ให้เกิดฝุ่น
อีกนโยบายคือ คือเปลี่ยนส่วยเป็นภาษี เรามีธุรกิจใต้ดิน ที่สร้างรายได้ 8.8 ล้านล้านบาท เราต้องรื้อโครงสร้างพลังงาน เพื่อให้ต้นทุนทุกอย่างถูก, โครงสร้างการเงิน เพื่อให้คนตัวเล็กกู้เงินในระบบด้วยอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ปรับโครงสร้างภาษี คนที่มีรายได้ไม่ถึง 40,000 บาท ไม่ต้องเสียภาษี , โครงสร้างระบบราชการ เรื่องพวกนี้หลายพรรคไม่เน้นเท่าพรรคเรา พรรคชาติพัฒนากล้าเป็นพรรคที่สร้างโอกาสนิยมไม่ใช่ประชานิยม พวกเราจะทำให้ประชาชน มีงาน มีเงิน และของไม่แพง อยากได้ทีมเศรษฐกิจ เข้าคูหา กาเบอร์ 14
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เลือกตั้ง2566 : "อนุทิน" มั่นใจส่ง ส.ส.เข้าสภามากกว่าปี 62 ไม่กังวล "ชูวิทย์" ป่วน
เลือกตั้ง2566 : ขึ้นเวทีสุดท้าย “ลุงป้อม” ประกาศทำภารกิจ “ตอบแทนคุณแผ่นดิน”
เลือกตั้ง2566 : ปราศรัยใหญ่ ชู "SAVE ปชป." ประชาธิปไตยไม่โกง
เลือกตั้ง2566 : เปิดอาคารกีฬาเวสน์ “ก้าวไกล” ปราศรัยเวทีสุดท้าย ก่อนลุ้นกาบัตร 14 พ.ค.