ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เลือกตั้ง2566: ส.ว.เสียงแตกเมื่อ "พิธา" นั่งนายกฯ

การเมือง
16 พ.ค. 66
10:15
78,515
Logo Thai PBS
เลือกตั้ง2566:  ส.ว.เสียงแตกเมื่อ "พิธา" นั่งนายกฯ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เช็กท่าที ส.ว."เสียงแตก" เมื่อพรรคก้าวไกล ที่มีชื่อของ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ประกาศจัดตั้งรัฐบาล และพร้อมเป็นนายกฯ คนที่ 30

หลังจากผลการนับคะแนนการเลือกตั้ง 2566 อย่างไม่เป็นทางการ โดยพรรคก้าวไกล มีคะแนนอันดับที่ 1 ซึ่งแม้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลจะประกาศเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยทาบอีก 5 พรรคการเมืองเข้าร่วมรัฐบาลเสียงข้างมากให้ได้ 309 เสียง

ขณะที่หลายฝ่ายจับตาท่าทีของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 250 เสียงในสภา ล่าสุด นพ.อำพล จินดาวัฒนะ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุ “สานพลังสร้างไทย” ระบุว่า ผลการเลือกตั้ง 14 พ.ค.66 สะท้อนเจตนามหาชนชัดเจนแล้ว จากนี้ไปควรปล่อยให้กลไกประชาธิปไตยทำงานต่อ ไม่ว่าใครก็ตาม อย่าได้แทรกแซงไม่ว่าจะอ้างเหตุผลใด ร่วมกันสานพลังสร้างชาติ ตามบทบาทหน้าที่ของทุกฝ่าย จะดีกว่าประเทศไทยถึงจะไปต่อได้

ส่วน นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “ผมว่าผมชัดเจนมาโดยตลอดนะครับได้ให้สัมภาษณ์มาแต่ครั้ง มีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็น 1 ใน 23 ส.ว.ที่ปิดสวิตช์ตนเองในการใช้สิทธิเลือกนายกรัฐมนตรี แต่การที่สื่อนำไปลงสั้นๆ แค่นั้น น่าจะยังไม่ชัดเจนพอ

ขอนำมาสรุปให้ชัดขึ้นว่าคราวนั้น ผมให้สัมภาษณ์ต่อไปว่า

ใครรวมได้เสียงข้างมาก เกิน 250 เสียงในสภาผู้แทนราษฎรก็ได้เป็นนายกฯ ได้เป็นรัฐบาลครับ ไม่มีใครขวางได้

เพราะครั้งที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยเหตุผลเดียวกันคือรวมเสียงได้เกิน 250 เสียงคราวนี้ ก็ยึดหลักการเดียวกัน จบนะครับคนถูกใจก็ไม่ต้องเขียนมาชม คนผิดหวังก็ไม่ต้องเขียนมาด่า 

อ่านข่าวเพิ่ม เลือกตั้ง2566 : "ศิธา" หวัง "ปชป.-ภท.-ชทพ." ประกาศปิดสวิตช์ ส.ว.

นอกจากนี้ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ บอกว่า ไม่มีธงแต่ต้องเป็นคนที่จงรักภักดีต่อ สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่ทำให้บ้านเมือง วุ่นวาย ขัดแย้งจนต้องลงถนน สิ่งที่สำคัญ ถ้าพรรคที่เป็นแกนนำในการตั้งรัฐบาล ไม่สามารถรวมเสียงได้ถึง 376 เสียง เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว.อัตโนมัติ ก็อาจเลือกรอบแรกไม่ผ่าน

ชี้ต้องดูใครนั่งนายกฯ-นโยบายพรรค 

ด้านนายจเด็จ อินสว่าง สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวว่า ก่อนหน้านี้พรรคก้าวไกลและนายพิธา เคยประกาศในการที่จะยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งกระทบกระเทือนถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการที่จะด้อยค่าสถาบันฯ ที่เรารับไม่ได้

นายจเด็จ กล่าวว่า ด้วยเหตุผลที่กล่าวข้างต้นคือ ไม่เห็นชอบ แม้จะรวมเสียง ส.ส.มาได้เท่าไหร่ก็ตาม จะเป็น 309 เสียงของสภาฯ อย่างที่แถลงไว้หรือจะไปถึง 376 เสียงก็แล้วแต่ที่หากได้ถึง 376 ก็ไม่ต้องมาพึ่ง ส.ว.แต่หากได้มาสัก 309 เสียง ก็ยังต้องถามส.ว.

ส่วนตัวผม ถ้าเสนอชื่อมาเป็นนายพิธา ผมไม่รับ จะลงมติไม่เห็นชอบเพราะผมจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและคำปฏิญาณ 

นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. กล่าวว่า หากใครรวมเสียงได้มากกว่า 250 เสียง ต้องเคารพเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ภารกิจก้าวไกลจะรวมพรรคอื่นได้เกิน 251 เสียงจนถึง 376 หรือไม่ ก็ไม่แน่ใจว่าคนได้เสียงอันดับ 1 จะต้องเป็นรัฐบาลเสมอ ครั้งที่แล้วพรรคเพื่อไทยมีเสียงมาอันดับ 1 แต่ก็ต้องเป็นฝ่ายค้าน

ต้องดูว่าพรรคก้าวไกลจะตกลงเรื่องนโยบาย และบุคคลที่เป็นนายกฯ กับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ ถ้าประสานพรรคเพื่อไทย หรือพรรคอื่นๆ อย่างพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา ก็แทบจะขาดลอย ไม่ต้องใช้เสียง ส.ว. แม้แต่เสียงเดียว

อย่าคิดว่า ส.ว.จะโหวตให้ใครหรือไม่ เท่าที่จับตาดูเห็นว่า มี ส.ว.หลายคนประกาศชัดเจน จะไม่ดูที่เสียงข้างมากอันดับ 1 อย่างเดียว จะต้องดูคนเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นโยบายพรรคการเมือง  

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เลือกตั้ง2566 : "เศรษฐา" เรียกร้อง "ภท.-ปชป." โหวตเลือก "พิธา" เป็นนายกฯ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง