"Pride Month Parade" กิจกรรมเดินขบวนเคลื่อนไหวทางสังคม ที่ผู้ร่วมงานต่างแต่งตัวด้วยชุดสีสันสดใส เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์สื่อถึงความภาคภูมิใจและความยอมรับในตัวตนที่แท้จริง จัดโดยผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ในต่างประเทศมักจะจัดตามสภาพอากาศ เช่น ยุโรป จะจัดช่วงฤดูร้อน ก.ค.-ก.ย. ทางเอเชียรวมถึงไทย จัดในเดือน มิ.ย. ซึ่งเราจะได้เห็น "ธงสีรุ้ง" ประดับประดาตามสถานที่ต่างๆ ผู้คนแต่งกายด้วยสีสันสดใสด้วยความภาคภูมิใจ
แต่กว่าความภาคภูมิใจเหล่านี้จะปรากฏขึ้นในปัจจุบัน ย้อนไปครึ่งศตวรรษก่อน จุดกำเนิดของความภาคภูมิใจ กลับแลกมาด้วยความรุนแรง การดูถูกเหยียดหยาม การเลือกปฏิบัติ และการใช้กฎหมายเข้าบังคับ
จลาจลสโตนวอลล์ - รักร่วมเพศก็ผิดกฎหมาย
ในช่วงทศวรรษที่ 1950 ประเทศที่เรียกตัวเองว่า "เสรี" อย่างสหรัฐอเมริกา แต่กลับยังมีกฎหมายต่อต้านคนรักร่วมเพศ ทุกรัฐต่างตัดสินให้บุคคลที่มีพฤติกรรมเช่นนี้เป็น "อาชญากร" มีโทษตั้งแต่ปรับไปจนถึงจำคุกตลอดชีวิต
แต่ก็มีสถานบันเทิงประเภท บาร์ ไนต์คลับ ไม่น้อย ที่เปิดร้านต้อนรับกลุ่มคนเหล่านี้ "บาร์สโตนวอลล์อินน์" ที่มีเจ้าของเป็นกลุ่มแกงค์มาเฟีย ก็เป็นอีกแหล่งชุมชนของกลุ่มคนที่ต้องปกปิดตัวเองจากสังคมภายนอกเช่นกัน แต่ใจที่เปิดกว้างต่อเพื่อนมนุษย์ กลับเป็นที่หมายหัวของตำรวจนิวยอร์ก
บาร์สโตนวอลล์อินน์ จุดกำเนิด Pride Month
เช้าวันที่ 28 มิ.ย.1969 ตำรวจเข้าบุกค้น บาร์สโตนวอลล์อินน์ โดยอาศัยกฎหมายการจำหน่ายแอลกอฮอล์และตรวจสอบสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ แต่เมื่อเข้าไป กลับพบกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติต่อเขาเหล่านั้นด้วยการดูถูกเหยียดหยาม หากใครแต่งตัวไม่ตรงกับเพศสภาพ ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายและถูกจับกุม
จนนำไปสู่การเริ่มรวมตัวกันของกลุ่มผู้ถูกเหยียดหยาม มีผู้หญิงคนหนึ่งถูกตำรวจตีศีรษะเพียงเพราะแต่งตัวเป็นชาย การถูกเลือกปฏิบัติ ถูกกลั่นแกล้งจนสร้างความอับอาย จากนั้นก็เริ่มมีการตอบโต้กลับจากการขว้างปาสิ่งของใส่ตำรวจ จนตำรวจต้องเรียกกำลังเสริมมาอีกหลายร้อยนายในเวลาต่อมา
กลุ่มผู้ประท้วงใช้ชื่อว่า "Gay Parade" รวมตัวแสดงกันและจุดยืนไม่ยอมรับการถูกเลือกปฏิบัติและความไม่เท่าเทียมกันทางเพศ เกิดจลาจล ความรุนแรง การปะทะจากทั้ง 2 ฝ่ายนานถึง 6 วัน ถือเป็นการยืนหยัดต่อสู้เพื่อสิทธิและเสรีภาพของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศครั้งแรกในประวัติศาสตร์
1 ปีต่อมา กลุ่ม "LGBT Pride March" รวมตัวเดินขบวนเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์การชุมนุมเมื่อปี 1969 ทั้งในนิวยอร์ก ลอสแอนเจลิส ซานฟรานซิสโก และชิคาโก
ปี 2000 ประธานาธิบดี บิล คลินตัน ประกาศให้เดือนมิถุนายนเป็น "เดือนแห่งความภูมิใจของชาวเกย์และเลสเบี้ยน" (Gay & Lesbian Pride Month)
ปี 2009 ประธานาธิบดี บารัก โอบามา ประกาศให้เดือนมิถุนายนเป็น "เดือนแห่งความภาคภูมิใจของชาวหลากหลายทางเพศ" (Lesbian, Gay, Bisexual, and Transgender Pride Month)
ปี 2019 เจมส์ พี. โอนีลล์ อธิบดีกรมตำรวจของมหานครนิวยอร์ก แถลงขอโทษอย่างเป็นทางการ ในนามของกรมตำรวจนิวยอร์ก สำหรับการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อปี 1969 ซึ่งกินเวลานานกว่า 50 ปี กว่าจะมีการขอโทษ
Love is color blind - รักไม่มีสี
ท่อนฮุคของเพลง "Love is color blind" ของนักร้องสาว Sarh Connor ที่เขียนไว้ว่า
It don't matter if you're black
ไม่สำคัญว่าคุณผิวดำ
White or yellow, if you're brown or red
ผิวขาวหรือเหลือง ผิวน้ำตาลหรือสีแดง
Let's get down to that
ลองพิจารณาดู
Love is color-blind
ความรักไม่มีการแบ่งแยกเรื่องสี
เพลงนี้แม้จะพูดถึงความรักที่ไม่จำกัดเรื่องสีผิว แต่ก็สามารถสื่อถึงการยอมรับความหลากหลายทางเพศได้เช่นกัน จากการเดินขบวนเพื่อเรียกร้องการยอมรับความหลากหลายทางเพศตั้งแต่ปี 1970 เรื่อยยาวจนถึงปัจจุบัน ที่การเดินขบวนเริ่มกลายเป็นการจัดงานเฉลิมฉลอง เต็มไปด้วยสีสัน ความสนุกสนาน กระจายไปทั่วโลก เพื่อสนับสนุนสิทธิเสรีภาพของกลุ่ม LGBTQ และเป็นการยอมรับในตัวเอง ความมีเกียรติ ความเท่าเทียม และการสร้างการรับรู้ต่อบุคคลในสังคม
ว่าพวกเขามีอิสระต่อการเปิดเผยตัวตนอย่างเต็มที่โดยไม่ถูกมองแปลกแยก
Take it out to the world
ประกาศให้โลกรู้
Tell every boy and every little girl
บอกเด็กผู้ชาย เด็กผู้หญิงทุกคน
Be proud of yourself
จงภูมิใจในตัวเอง
'Cause you're as good as anybody else
เพราะคุณก็เป็น "คนดี"เหมือนกับทุกคน
Happy Pride Month 2023!